มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ เร่งนโยบายแก้ภัยแล้งปี 63 เดินหน้าแผนป้องกัน-ปรับแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องสถานการณ์

ข่าวทั่วไป Monday January 6, 2020 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเยว่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ออกหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด ปรับแผนเผชิญเหตุภัยแล้งทั้งในภาพรวม และเฉพาะเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้ดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้

1. ใช้กลไกระบบบัญชาการเหตุการณ์ตามกฎหมายและแผนว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แบ่งเป็น 3 ภารกิจหลัก ประกอบด้วย

1.1 กลุ่มพยากรณ์ โดยมีคณะทำงานติดตามสถานการณ์ ของศูนยบัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานด้านการคาดการณ์สภาพอากาศ และหน่วยงานด้านการบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนฝ่ายปกครองในพื้นที่ทำหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำท่า และระดับน้ำในแหล่งเก็บน้ำขนาดต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์น้ำต้นทุน และความต้องการใช้น้ำในด้านต่าง ๆ โดยหากมีแนวโน้มเกิดการขาดแคลนน้ำในกรณีต่าง ๆ ทั้งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศน์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ให้เร่งเสนอผู้มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งการหน่วยงานเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาในทันที

1.2 กลุ่มบริหารจัดการน้ำ โดยดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการ/คณะทำงาน ของจังหวัด มีหน่วยงานด้านการบริหารจัดการน้ำเป็นฝ่ายเลขานุการ เพื่อให้การวางแผนการใช้น้ำในลักษณะต่าง ๆ ทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศน์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม รวมทั้งการกำหนดแนวทาง ในการระบายน้ำ และกักเก็บน้ำไวัใช้ประโยชน์ เป็นไปอย่างครอบคลุม สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่

1.3 กลุ่มปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยบูรณาการหน่วยปฏิบัติการ จากทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร ตลอดจนภาคเอกชน เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้ ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหากรณีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนเป็นอันดับแรก พร้อมทั้งกำหนดแบ่งพี้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ และมอบหมายหน่วยงาน/ภารกิจ ตลอดจนหน่วยสนับสนุนให้ครอบคลุมในแต่ละพื้นที่

2. ให้สำรวจตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค พร้อมทั้ง กำหนดมาตรการรับมือ อาทิ การจัดทำแผนสำรองน้ำ การหาแหล่งน้ำสำรอง การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำดิบ การขุดขยายสระพักน้ำดิบ เพื่อสำรองปริมาณน้ำในการอุปโภคบริโภค รวมถึงการสูบส่งน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงไปยังระบบการผลิตน้ำประปา และให้กำหนดพื้นที่ที่เหมาะสม เป็นพื้นที่นำร่อง การพัฒนาพื้นที่รับน้ำ (แก้มลิง) ชั่วคราว ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เป็นพื้นที่กักเก็บน้ำถาวร ตลอดจนการพิจารณา จัดทำ"ธนาคารน้ำใต้ดิน"ที่มีการควบคุมคุณภาพน้ำ ที่กักเก็บให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดภัย เพียงพอสำหรับการใช้ประโยชน์

3. ในส่วนของการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร ให้สนับสนุนมาตรการควบคุมการใช้น้ำในพื้นที่ โดยขอความร่วมมือไม่ให้เกษตรกรทำการปิดกั้นลำน้ำ หรือสูบน้ำเข้าพื้นที่การเพาะปลูก ตามแผนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลดผลกระทบการขาดแคลนน้ำด้านอุปโภคบริโภคในพื้นที่ พร้อมทั้ง ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการจัดทำฝนหลวงในพื้นที่ เมื่อสภาวะอากาศเอื้ออำนวย เพื่อกักเก็บปน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด

4. เฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ คู คลอง หรือแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำดีไล่น้ำเสีย และให้มอบหมายหน่วยงานที่รับผิดขอบเส้นทางคมนาคมที่มีแนวติดคลอง ลำน้ำ หรือแม่น้ำต่าง ๆ ในการสำรวจ และกำหนดมาตรการรองรับกรณีการพังทลายของตลิ่ง

5. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการประหยัดน้ำ และทราบถึงมาตรการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ รวมถึงเชิญชวนประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็ก เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกให้ประชาชน ใช้น้ำอย่างประหยัด และรู้คุณค่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ