COVID-19สธ.ห่วงผู้อาศัยในชุมชนแออัด-แคมป์ก่อสร้าง-ตลาด มีความเสี่ยงระบาดวงกว้าง ขอปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

ข่าวทั่วไป Wednesday April 15, 2020 16:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมอนามัย ได้จัดทำข้อเสนอแนะหรับผู้อาศัยในชุมชนแออัด ที่พักคนงานก่อสร้าง และตลาด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่น แออัด ซึ่งหากมีการแพร่ระบาดก็มักจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว

ในส่วนผู้อาศัยในชุมชนแออัด และที่พักคนงานก่อสร้าง หากมีสมาชิกอยู่ร่วมบ้านหลายคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกัน หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ แยกใช้สิ่งของร่วมกัน หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น และหมั่นสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัว สำหรับที่พักคนงานก่อสร้าง ให้เจ้าของกิจการหรือนายจ้าง ควบคุมดูแลความสะอาดที่พัก ห้องน้ำ อุปกรณ์ และสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งการคัดกรองเบื้องต้น พร้อมสังเกตอาการป่วยของคนงาน และจะต้องหมั่นสังเกตอาการตนเอง และคนในครอบครัว ต้องสวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าเมื่ออยู่ร่วมกันในครอบครัว

สำหรับการปฏิบัติภายในตลาดสด เพื่อให้เจ้าของตลาดนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติในช่วงโควิด-19 ระบาด โดยต้องดูแลสถานที่ให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ บริเวณการใช้บริการ จัดให้เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ส่วนผู้ขายในตลาดให้รักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า มาตรการที่ยังเน้นย้ำในเรื่องของสุขอนามัยส่วนบุคคล แม้ว่าขณะนี้เราจะล้างมือ สวมหน้ากากในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในระยะนี้ก็ยังไม่สามารถลดการล้างมือและการสวมหน้ากากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ และที่สำคัญคือกลุ่มบุคคลที่เป็น Home Quarantines และ State Quarantines ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง จะต้องการ์ดไม่ตกเลย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเราทำตรงนี้ได้ดีทำให้การขยายตัวของผู้ป่วยอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ส่วนการประเมินความพร้อม ถ้าจะมีการผ่อนปรนมาตรการรายจังหวัดต้องมีการเตรียมการเป็นอย่างดี

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ประชาชนรู้จุดเสี่ยง สถานที่เสี่ยง รวมถึงรู้จุดที่ปลอดภัยด้วย ซึ่งทางกรมอนามัยได้จัดทำ Application Thaistopcovid-19 เพื่อติดตามกลุ่มต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน ประเมินตนเอง และปักหมุดแต่ละพื้นที่ที่ได้ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กรมอนามัยกำหนด โดยประชาชนผู้บริโภคสามารถตรวจสอบ เพื่อเลือกใช้บริการ ร้องเรียนเสนอแนะผ่านช่องทางเดียวกันได้

การเพิ่มมาตรการ Work from Home ไปยังกลุ่มอื่นๆ ไม่เฉพาะกลุ่มคนทำงาน แต่หมายถึงเด็ก นักเรียน นักศึกษาทั้งหมด จะต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความสำเร็จในการปรับรูปแบบการประชุม การทำงาน การจัดการเรียนการสอนทั้งหมดที่จะต้องค่อยๆปรับให้เข้าสู่รูปแบบใหม่ให้มาตรการนี้ค่อยๆมีศักยภาพที่จะยังทำงานอย่างต่อเนื่อง

จากผลการสำรวจรายสัปดาห์ตามมาตรการ "หยุดบ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ วันที่ 2 – 8 เมษายน 2563 จากผู้ตอบแบบสอบถาม 47,144 คน พบว่า 47.1% มีการออกนอกบ้าน ในจำนวนนี้พบว่า 94.2% มีความจำเป็นที่ต้องออกนอกบ้าน เช่น ทำงาน หาหมอ ชื้ออาหาร/ของใช้ ทำธุรกรรม และ 9.4% ใช้ขนส่งสาธารณะในการเดินทาง

ส่วนพฤติกรรมในการป้องกันตนเองเมื่อพบกับคนอื่นทั้งในและนอกบ้าน พบว่า 85.2% ล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง, 76.7% ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้ง และ 62.7% รักษาระยะห่าง 1-2 เมตร เมื่อพบกับผู้อื่นทุกครั้ง

ด้านนพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การติดเชื้อภายในบ้านยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เรื่องของการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การสวมหน้ากากอนามัยยังคงเป็นมาตรการที่สำคัญที่ประชาชนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็นจริงๆ และเวลาออกไปแล้วก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการล้างมือบ่อยๆ อย่างเคร่งครัด

นพ.อนุพงศ์ กล่าวถึงผลตรวจนักแสดงหนุ่ม "แมทธิว ดีน" และลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ภรรยา ที่ผลตรวจออกมายังเป็นบวกอยู่ว่า ทั้ง2 คนได้มีการตรวจแบบ PCR ประมาณ 6 ครั้งในช่วง 30 วัน และทุกครั้งเป็นผลบวกตลอด ซึ่งเมื่อเทียบกับเซียนมวยที่เข้าโรงพยาบาลทีหลังแต่ผลตรวจเป็นลบและได้กลับบ้านนั้น อาจจะเป็นเพราะในร่างกายของผู้ป่วยยังมีซากสารพันธุกรรมของเชื้ออยู่ ซึ่งเคสในลักษณะนี้ ถือว่าเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ต้องเก็บข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ