(เพิ่มเติม) COVID-19: ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต,เคสยะลา รอผลตรวจซ้ำ

ข่าวทั่วไป Tuesday May 5, 2020 13:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม) COVID-19: ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต,เคสยะลา รอผลตรวจซ้ำ

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,988 ราย ผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้ว 2,747 ราย เพิ่มขึ้น 7 ราย โดยวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 54 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 1 รายดังกล่าว เป็นชายไทย อายุ 45 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2563 มีอาการไอ ไข้ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่จ.นราธิวาส พบปอดอักเสบ แพทย์เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ ผลยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.

สำหรับผู้ป่วยรายนี้มีประวัติเสี่ยงหลายอย่าง คือมีการเดินทางไปร่วมศาสนพิธีในต่างประเทศ รวมถึงมีประวัติสัมผัสครอบครัว ชุมชน จึงต้องหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งว่าติดเชื้อมาจากที่ใด ยังไม่ได้เจาะจงลงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อ 40 ราย จ.ยะลานั้น ต้องมีการเก็บตัวอย่างและทบทวนกระบวนการทั้งหมด ซึ่งช่วงบ่ายกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยรมว.สาธารณสุขและรองนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์กรแทพย์ จะมีการประชุมปรึกษากันเพื่อคลายข้อสงสัยต่างๆ และให้เห็นถึงมาตรฐานการดูแลการทำห้องปฏิบัติการต่างๆ ด้วย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการวิเคราะห์ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มก้อนที่พบเยอะที่สุด คือ ศูนย์กักกันต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายเจอ 60 ราย สัมผัสผู้ป่วยรายงานก่อนหน้า 49 ราย ค้นหาเชิงรุก 31 ราย ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักกันของรัฐ 13 และไปสถานที่ชุมชน คือ ตลาดนัด 8 รายซึ่งเป็นเรื่องต้องระวังเมื่อมีการผ่อนปรน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การสำรวจออนไลน์ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ตลอด เม.ย.2563 โดย สธ.ร่วมสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจจำนวน 99,865 ราย พบว่า 99.8% เข้าใจว่าควรทำมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติอย่างไร ขณะที่ 93.8% คิดว่า มาตรการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติช่วยลดการระบาดของโรคได้

ส่วนผลสำรวจเกี่ยวกับสถานที่ประชาชนเห็นว่าควรเปิด คือ ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ห้าง 69.9% ซึ่งตลาดสด ร้านสะดวกซื้อเปิดแล้ว, ร้านตัดผม คลินิกเสริมวามงาม นวดแผนโบราณ สปา 45.7%

ส่วนสถานที่ที่เห็นว่ายังไม่ควรเปิด คือ สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามม้า 90.5%, ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานประกอบการอาบอบนวด 89.9%, ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนประถม-มัธยม 64.6%, มหาวิทยาลัย 56.5%, สนามเด็กเล่น สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สวนสาธารณะ 49.6% แหล่งท่องเที่ยวธรรมขาติ พิพิธภัณฑสถาน ห้องสมุดสาธารณะ ศาสนสถาน 49.4% ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรืออื่นๆที่มีการบริโภคอาหารแบบนั่งกิน 43.4% สถานีขนส่งหรือโดยสาร 42.7%

ด้านการนำคนไทยที่ตกค้างกลับจากต่างประเทศวันนี้ จะมีเดินทางจากฝรั่งเศส 16 คน อินเดีย 220 คน ส่วนพรุ่งนี้ (6 พ.ค.) จะมาจากเมียนมา 65 คน เยอรมนี 110 คน ปากีสถาน 122 คน โดยยังมีแผนจะนำคนไทยกลับมาจากประเทศในช่วงระหว่าง 6-31 พ.ค.อีกประมาณ 7,000 คน จากหลายๆ ประเทศ เช่น ปากีสถาน แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น UAE อียิปต์ เนเธอแลนด์ เวียดนาม สหรัฐฯ ไต้หวัน

ด้านการตรวจสถานประกอบการ หลังการผ่อนปรน เมื่อวานนี้ (4 พ.ค.) จำนวน 9,383 แห่ง พบปฏิบัติตามข้อกำหนด 9,032 แห่ง คิดเป็น 96% ไม่ปฏิบัติตาม 351 แห่ง คิดเป็น 4% แบ่งออกเป็นตรวจร้านอาหาร 3,156 แห่ง พบว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 214 แห่ง ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าตรวจ 573 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 10 แห่ง ร้านค้าในตลาด และร้านค้าปลีกตรวจทั้งหมด 2,680 แห่ง พบว่าไม่ปฏิบัติตาม 41 แห่ง ร้านเสริมสวยตรวจทั้งหมด 1,943 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 61 แห่ง สนามกีฬา ตรวจ 254 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 12 แห่ง สวนสาธารณะ ตรวจ 352 แห่ง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 6 แห่ง ร้านสัตว์เลี้ยง ตรวจ 348 แห่ง พบว่า/ไม่ปฏิบัติตาม 7 แห่ง แต่สำหรับสนามกอล์ฟให้ความร่วมมือดี ตรวจ 77 แห่ง พบว่าให้ความร่วมมือดีทั้ง 77 แห่ง

สำหรับการปฎิบัติตัวในวันวิสาขบูชาวันที่ 6 พ.ค.นี้ นพ.ทวีศิปล์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากมติมหาเถรสมาคม ประกาศว่าเพื่อป้องกันทุกคนให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ให้วัดทุกวัดทั่วราชอาณาจักร และวัดไทยในต่างประเทศ งดจัดกิจกรรมที่คนมาร่วมตัวกันทุกประเภท ยกเว้นกิจของสงฆ์ พร้อมแนะนำให้เวียนเทียนพร้อมพระสงฆ์ที่บ้านในเวลา 19.00 น. ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสด

"ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ที่ได้ตัวเลข 1 ราย มาจาก 7 วัน 14 วันที่ผ่านมาที่เราร่วมมือกัน หลายวันนี้หลายคนกังวลใจว่าในอีก 7-14 วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาไม่เป็นไร แต่จากนี้ขอให้มีสติ ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ให้ร่วมกันป้องกันการระบาดให้ได้ 2 เดือนเท่านั้น จะปลอดโรค"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ