(เพิ่มเติม) คตส.สั่งอายัดเงินขายหุ้น SHIN อีกกว่า 1.9 พันลบ./"ประไหมสุหรีฯ"โดนด้วย

ข่าวทั่วไป Monday July 9, 2007 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสัก กอแสง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เผยที่ประชุม คตส.มีมติให้อายัดเงินจากการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN)เพิ่มเติมอีกเป็นรอบที่ 6 ซึ่งเป็นเส้นทางเงินของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี วงเงินรวมประมาณ 1.9 พันล้านบาท
โดยทรัพย์สินที่ถูกอายัดครั้งนี้เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชโยธิน ของบริษัท ประไหมสุหรี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด วงเงิน 800 ล้านบาท และบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย ของบริษัท เวิร์ธซัพพลาย จำกัด 400 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยจากเงินฝากทั้งสองบัญชี
พร้อมกันนี้ยังมีแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะพานควาย สั่งจ่ายบริษัท เวิร์ธ ซัพพลาย จำกัด รวม 600 ล้านบาท และบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชดาภิเษกของบริษัท สมพรแอนด์แอสโซซิเอท จำกัด อีก 100 ล้านบาท โดยขณะนี้ คตส.ยังอยู่ระหว่างการติดตามเส้นทางเงินอีก 1 รายการประมาณ 100 ล้านบาท
"เงินทั้ง 1,900 ล้านบาทที่อายัดนี้ เป็นเงินที่มีการเคลื่อนย้ายระหว่างวันที่ 15-27 มิ.ย. คตส.จึงมีคำสั่งอายัดไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง" โฆษก คตส.กล่าว
อย่างไรก็ดี หากบุคคลใดเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์สินที่ถูกอายัดตามคำสั่งดังกล่าว และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ให้บุคคลนั้นยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบฯ ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ออกคำสั่งนี้
ทั้งนี้บริษัท ประไหมสุหรีฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ยูเค สปอร์ต อินเวสต์เมนต์(UKSIL) โดยถือหุ้นบุริมสิทธิ์กว่า 41,667 หุ้น ซึ่งนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ถือหุ้นคนละ 2,845 หุ้น ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือหุ้นอยู่ 57 หุ้น ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นข้อเสนอในนามของ ยูเค สปอร์ตฯ กว่า 5.6 พันล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้
นายสัก ยังกล่าวถึงกรณีการออกสลากรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว(หวยบนดิน) ว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จะเริ่มกำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.-2 ส.ค.50 วันละ 10 คน
ส่วนกรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.นั้น ที่ประชุม คตส.ยังไม่มีมติแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยได้ตั้งข้อสังเกตให้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ไปพิจารณาเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น คือ ปลัด กทม.ควรถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ และให้ไปพิจารณาเรื่องการปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนในการเปิด LC ว่าควรมีผู้ใดถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มหรือไม่
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ยังเสนอข้อเพิ่มมูลความผิดในข้อกล่าวหาเรื่องการฮั้วราคา ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 12 และ 13 เนื่องจากมีการกำหนดราคาไว้ล่วงหน้าโดยรายการสินค้าที่ถูกกำหนดราคาดังกล่าวมีคุณสมบัติเฉพาะ และผูกพันจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการใดๆ ได้ โดยไม่สามารถเสนอให้มีการแข่งขันด้วยการประกวดราคาก่อนหรือหลังการลงนาม รวมทั้งกำหนดว่าหลังลงนามแล้วยังไม่อาจต่อรองหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ