สทนช. จับมือ ม.เกษตร-จุฬาฯ พัฒนาแบบจำลองการจัดสรรน้ำในพื้นที่นำร่อง EEC

ข่าวทั่วไป Thursday August 6, 2020 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวภายหลังเปิดโครงการนำร่องศึกษาวิเคราะห์ความเชื่อมโยงการบริหารจัดการน้ำกับระบบประเมินด้านเศรษฐกิจและสังคมและพัฒนาระบบบัญชาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในภาวะวิกฤติว่า ในปีที่ผ่านมาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรี ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง สทนช.ได้อำนวยการบริหารจัดการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำและองค์กรผู้ใช้น้ำเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น

สำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สทนช.ต้องการเครื่องมือที่เป็นรูปธรรมในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อนำไปสู่การเจรจาตกลงการจัดสรรน้ำ การใช้น้ำ บนหลักวิชาการมากขึ้น โดยในงานศึกษานี้ สทนช. เน้นให้มีการจำลองสถานการณ์ภายใต้หลักความเหมาะสมเพื่อคัดเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด (Optimization) และให้คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย ทั้งในด้านสังคม วัฒนธรรม และการเมือง โดยการพัฒนาแบบจำลอง Hydroeconomic นี้ต้องสามารถนำมาใช้ได้จริง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึงตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยการศึกษาโครงการนำร่องฯ ดังกล่าวเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน พ.ค.63 มีระยะเวลาดำเนินการ 360 วัน ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ 1.เป็นการทบทวนสภาพทางวิศวกรรม เศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อมของ 22 ลุ่มน้ำหลัก ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดลุ่มน้ำ พ.ศ. .... ไปเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา 2.เป็นการคัดเลือกพื้นที่นำร่อง โดยผลการทบทวนข้อมูลและวิเคราะห์ความสำคัญเชิงพื้นที่ พบว่า ลุ่มน้ำสาขาชายฝั่งทะเลตะวันออก (ลุ่มน้ำสาขา 1) คลองใหญ่ แม่น้ำประแสร์ และคลองโตนด ซึ่งตั้งอยู่ในลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก เป็นพื้นที่เปราะบางมีความเสี่ยงสูงจากการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงกายภาพ สภาพอากาศ และด้านเศรษฐกิจสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการศึกษาจึงยกขึ้นมาเป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาครั้งนี้ และต้องมีการหาข้อสรุปเพื่อกำหนดนิยามของคำว่า "ภาวะปกติและภาวะวิกฤต" ที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ศึกษาดังกล่าวด้วย และ 3.เป็นการพัฒนาแบบจำลองที่ผสมผสานแนวคิดด้านการจัดสรรน้ำกับความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ (Hydroeconomic Model) เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดสรรน้ำโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตต่อไป

นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับ สทนช. และมีกลไกการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยด้านน้ำ โดยบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับชาติซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้เห็นด้วยที่ สทนช.จะนำแบบจำลองมาสนับสนุนการตัดสินใจ ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารประเทศมองเห็นภาพรวมของผลกระทบและความคุ้มค่าและใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจการดำเนินการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยจากน้ำที่เป็นระบบและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ