(เพิ่มเติม1) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 5 ราย ,ผลตรวจผู้ใกล้ชิดหญิงฝรั่งเศสไม่พบเชื้อ

ข่าวทั่วไป Sunday October 25, 2020 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม1) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 5 ราย ,ผลตรวจผู้ใกล้ชิดหญิงฝรั่งเศสไม่พบเชื้อ

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ประกอบด้วย บาห์เรน 2 ราย, สหราชอาณาจักร 1 ราย , ฝรั่งเศส 1 ราย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย

ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,736 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,451 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 788 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3,530 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 147 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย

สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ โดยผู้ที่เดินทางมาจากบาห์เรน 2 ราย เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 36 ปี และ 39 ปี รายหนึ่งมีอาชีพพนักงานร้านสะดวกซื้อ และอีกรายมีอาชีพพนักงานนวด ทั้งสองรายเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. เข้าพัก State Quarantine ชลบุรี ผลการตรวจหาเชื้อในวันที่ 22 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 4 พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวโรงพยาบาลบางละมุง

ผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 19 ต.ค. เข้าพัก State Quarantine ชลบุรี ผลการตรวจหาเชื้อในวันที่ 22 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 3 พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวโรงพยาบาลหนองใหญ่ ,ผู้ที่เดินทางมาจากฝรั่งเศส เป็นนักท่องเที่ยว เพศหญิง สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 60 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กรุงเทพฯ ผลการตรวจหาเชื้อในวันเดียวกัน พบเชื้อ ไม่มีอาการ รักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน ในกรุงเทพฯ

ผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 40 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค สุวรรณภูมิ ซึ่งผู้ป่วยมีอาการไอ เจ็บคอ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. เป็นอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) และผลตรวจในวันที่ 23 ต.ค. พบเชื้อ รักษาตัวโรงพยาบาลสมุทรปราการ

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อรวม 42,924,366 ราย เสียชีวิต 1,154,742 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก คือสหรัฐอเมริกา จำนวน 8,827,932 ราย , อินเดีย จำนวน 7,863,892 ราย , บราซิล จำนวน 5,381,224 ราย , รัสเซีย จำนวน 1,497,167 ราย และสเปน จำนวน 1,110,372 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 146

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 43 ล้านราย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงานมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะต่ำกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงค่อนข้างมาก โดยผู้ติดเชื้อราว 50% เป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการ

สำหรับประเทศไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี โดยมีกลไกสำคัญ คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม) ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านคัดกรองให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ทำให้ประเทศสามารถผ่านพ้นวิกฤติมาได้จนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ แม้ว่าหลังจากนั้นประเทศไทยจะพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศไทย หรือการติดเชื้อในประเทศบ้าง แต่ด้วยระบบการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพสามารถนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบรักษาที่รวดเร็ว และติดตามผู้สัมผัสเพื่อเฝ้าระวังโรคทำให้ไม่เกิดการแพร่เชื้อเป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตามระหว่างรอวัคซีนโควิด-19 สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ คือการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น เลี่ยงการนำมือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูกปาก และล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำและสบู่บ่อย ๆ จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัย และเมื่อเข้าใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ให้ลงทะเบียนเข้า-ออกผ่าน "ไทยชนะ" เพราะเมื่อหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสมาเฝ้าระวังโรค จากมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้วิถีชีวิต สังคม และเศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 โพสต์ข้อมูลว่า กรมควบคุมโรคแถลงกรณีหญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางถึงประเทศไทยและผ่านการกักกันตัวระยะ 14 วันแล้วว่า ทีมสอบสวนโรคติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ สมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาด้วย 2 ราย และเพื่อนต่างชาติที่ขับรถไปรับที่สนามบิน 1 ราย ผลตรวจไม่พบการติดเชื้อ ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือเที่ยวบินเดียวกัน 12 ราย มี 1 รายมีอาการทางเดินหายใจ แต่ส่งตรวจโรคโควิด-19 แล้วไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยุ่ระหว่างเฝ้าระวังอาการและรอตรวจหาเชื้อ

สำหรับสถานที่กักกันโรคจังหวัดสมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยเข้าพักระหว่าง 30 ก.ย.-15 ต.ค. พบผู้ปฏิบัติงาน 68 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 67 ราย ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 ส่วนการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อมจำนวน 7 ตัวอย่าง พบเชื้อโควิด-19 บนอุปกรณ์ออกกำลังกายในห้องฟิตเนส

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคประสานกับสาธารณสุขในพื้นที่ร่วมกันติดตามสอบสวนและควบคุมโรคตามมาตรฐานสูงสุดและคุมเข้มมาตรฐานของโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักกันตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine)อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เป็นจุดเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ