วิษณุ ยอมรับการประกาศมาตรการคุมโควิดยังลักลั่น เล็งปรับเป็นมาตรฐานเดียว

ข่าวทั่วไป Tuesday January 5, 2021 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระยะที่ 1 แต่หากเข้าสู่ระยะที่ 2 จะต้องเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ส่วนจะเข้าสู่ระยะที่ 2 เมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันในพื้นที่สีแดง รวมถึงพื้นที่สีเหลืองและสีส้มได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งเมื่อถึงขนาดนั้นจะเปลี่ยนไปใช้คำว่า ทวีความรุนแรงและรวดเร็ว

"ถ้ามันยังช้า 14 วัน 28 วัน มันยังพอคุมอยู่ แต่ถ้าเพิ่มเป็นวันนี้ 200 พรุ่งนี้ 400 มะรืน 600 ถ้าแบบนั้น แปลว่าเตรียมตัวได้แล้ว" นายวิษณุ กล่าว

พร้อมระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 1 ซึ่งมีความหนักเบา รุนแรงและไม่รุนแรงในแต่ละพื้นที่สลับกันไป ซึ่งเมื่อโควิดเกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ได้ให้อำนาจศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ครั้งนี้ได้คืนอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพียงแต่มีข้อความให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมั่นใจว่าจะไม่ถูกฟ้องและจะได้รับความคุ้มครอง จึงใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปคุ้มครองเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปออกคำสั่งได้

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า ในระยะที่ 1 ยังมีความลักลั่นและทำให้ประชาชนเกิดความสับสนบ้าง ทั้งเรื่องของการเดินทางข้ามจังหวัด และการเปิด-ปิดสถานที่ ที่เป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด โดยจะปล่อยให้เป็นแบบนี้สักระยะหนึ่ง แต่หากเข้าสู่ระยะ 2 ก็จะมีการปรับให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ และนายกรัฐมนตรีก็จะเรียกอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดกลับคืนมาเป็นของนายกรัฐมนตรี ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องการเตรียมเงินช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ จะมีการเสนอประเด็นที่ที่ประชุม ศบค.พิจารณาวานนี้ แต่ไม่ใช่การสั่งล็อกดาวน์ใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกรวมถึงจังหวัดสมุทรสาครแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ