ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 374 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ 43 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 321 ราย เป็นคนไทย 118 ราย สัญชาตอื่นๆ 193 ราย เป็นการค้นหาในสมุทรสาคร 311 ราย ชลบุรี 1 ราย ตรัง 2 ราย ปราจีนบุรี 1 ราย พัทลุง 3 ราย ระยอง 2 ราย และสมุทรปราการ 1 ราย
ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด 10 ราย จากสหรัฐอเมริกา 2 ราย เยอรมนี 1 ราย อินเดีย 2 ราย เดนมาร์ก 1 ราย การ์ตา 1 รายมาเลเซีย 3 ราย
จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 12,054 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 6,070 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 3,707 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,277 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 9,015 ราย เพิ่มขึ้น 109 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 70 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อสะสมใน 61 จังหวัด จ.พัทลุง เป็นจังหวัดใหม่ในวันนี้ พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย จากการค้นหาในชุมชน พบชาวลาว ทำงานร้านคาราโอเกะ และชาวเมียนมาอีก 2 ราย ขณะที่การค้นหาเชิงรุกใน จ.ตรัง พบแรงงานเมียนมา 2 ราย ทำงานในโรงงานแปรรูปยางพาราติดเชื้อ โดยจะต้องนำไทม์ไลน์มาหามาตรการต่อไป
โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า มีแผนที่จะค้นหาเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ขณะที่ผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง และเดินทางหลายพื้นที่ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก ซึ่ง กทม. และกรมควบคุมโรค จะต้องฉายภาพไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อที่กระจายไปหลายเขต เพื่อหามาตรการกำกับติดตามแต่ละพื้นที่ ซึ่งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จะต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น
"กทม. ยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่ทุกวัน และเข้าไปในครอบครัวแล้ว"
พร้อมขอความร่วมมือสำหรับแรงงานต่างด้าว ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ลาว ที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายกว่า 5 แสนราย ที่มีทั้งมีนายจ้างและไม่มีนายจ้าง ให้ลงทะเบียนทางระบบออนไลน์ของกระทรวงแรงงานได้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.-13 ก.พ. 64 เพื่อให้สามารถเข้าถึงกระบวนการดูแลได้ดีเพียงพอ
ด้านสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อรวม 94,950,848 ราย เสียชีวิต 2,030,920 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 24,306,043 ราย อันดับสอง อินเดีย 10,558,710 ราย อันดับสาม บราซิล 8,456,705 ราย อันดับสี่ รัสเซีย 3,544,623 ราย และอันดับห้า สหราชอาณาจักร 3,357,361 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 127