ปลัดคมนาคมเผยผลสอบสอบอุบัติเหตุเครื่องวันทูโกเบื้องต้นชี้จากสภาพอากาศ

ข่าวทั่วไป Tuesday September 25, 2007 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุราชอาณาจักร เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเครื่องบินไม่มีความผิดปกติ ขณะเกิดอุบัติเหตุเครื่องยนต์ 2 เครื่องทำงานอยู่ ขณะที่สภาพอากาศมีความผันแปร
ส่วนข้อมูลอื่นๆ เช่น พยานวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในเครื่องบิน และสถานที่เกิดเหตุ ข้อมูลการโต้ตอบระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน สภาพอากาศในเวลานั้นถูกเก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว และข้อมูลที่มีอยู่ก็เป็นข้อมูลที่สอดคล้องกัน และมีแนวโน้มว่าเกิดปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้สรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพราะต้องรอผลการวิเคราะห์ข้อมูลของกล่องดำ ซึ่งจะมีรายละเอียดเสียงสนทนาของนักบิน ข้อมูลการทำงานของเครื่องบิน โดยคาดว่าผลการวิเคราะห์กล่องดำจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 27 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะนำส่งข้อมูลมาให้คณะกรรมการฯ พิจารณา ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งในต้นเดือน ต.ค.นี้
"คณะกรรมการฯ ชุดนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดมาสรุป ประมวลพยานแวดล้อม และนำมาวิเคราะห์รวมกับผลการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยหากข้อมูลทุกส่วนมีความสอดคล้องกันก็จะสามารถสรุปสาเหตุเสนอให้พลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบ และแถลงต่อสาธารณชนทันที แต่หากข้อมูลไม่สอดคล้องกันก็ต้องใช้เวลา เพราะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป" นายชัยสวัสดิ์ กล่าว
ทั้งนี้การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมานั้นได้มีการสอบสวนการโต้ตอบของนักบินในเที่ยวบินก่อนหน้าเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุ โดยพบว่านักบินในเที่ยวก่อนหน้าได้บอกให้หอบังคับการบินแจ้งเตือนเที่ยวบินลำต่อไปว่ามีลมปรวนแปร และคาดว่าจะเป็น “วินเชียร์" ซึ่งพนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ ประจำหอบังคับการบินก็ได้แจ้งกับเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว ซึ่งโดยหน้าที่ของหอบังคับการบิน จะมีหน้าที่แจ้งสภาพอากาศ-ลม บริเวณท่าอากาศยานให้กับนักบินทราบ แต่ในขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินใจว่าจะนำเครื่องบินลงหรือไม่นั้นจะอยู่ที่ นักบินเป็นสำคัญ
ด้าน พล.อ.ต.วินัย เปล่งวิทยา เจ้ากรมจเรทหารอากาศ กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการฯ ในการเก็บรวบรวมหลักฐานค่อนข้างลำบาก เพราะมีการเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจกระทบให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน แต่ด้วยข้อจำกัดของท่าอากาศยานภูเก็ตที่ต้องเร่งเปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์อื่นๆ จึงต้องมีการย้ายซากเครื่องบินไปในพื้นที่ปลอดภัยการบิน
ดังนั้นคณะกรรมการฯ จึงพยายามเก็บข้อมูลทั้งหมดให้ละเอียดที่สุด เพื่อที่จะนำมาประกอบการพิจารณาหาสาเหตุ ทั้งนี้ในการสอบสวนหาสาเหตุจะใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาใน 3 ด้าน คือ นักบิน สภาพอากาศ และตัวเครื่องบิน ซึ่งส่วนใหญ่สภาพอากาศค่อนข้างมีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ