ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 789ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 522 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 259 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศผ่านการคัดกรองและเข้าสถานกักกัน 8 ราย เดินทางจากต้นทางประเทศรัสเซีย 3 ราย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา โอมาน อินเดีย แคนาดา
- เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 68 ปี ขณะป่วยอยู่ที่จ.นครปฐม มีโรคประจำตัว เบาหวานและความดันโลหิตสูง สาเหตุการติดเชื้อมีการไปสัมผัสผู้มีประวัติติดเชื้อก่อนหน้า
วันที่ 7 ก.พ. เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จึงไปรับการรักษาที่คลินิก
วันที่ 11 ก.พ. มีอาการเหนื่อยหอบ จึงไปรพ.และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจพบเชื้อ
วันที่ 21 มี.ค. ผู้ป่วยเหนื่อยหอบมากขึ้น และมีเสมหะมาก จึงใส่ท่อช่วยหายใจ ร่วมกับการติดเชื้อในรพ.ดื้อยาหลายตัวจากเสมหะ
วันที่ 4 เม.ย.ผู้ป่วยมีอาการแย่ลง และมีภาวะไตวาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
"ผู้เสียชีวิตรายนี้ การรักษาโรคโควิด-19 ได้ผลค่อนข้างดี ตรวจไม่พบเชื้อหลายครั้ง แต่เนื่องจากผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ มีภาวะแทรกซ้อน เกิดการติดเชื้อซ้ำอยู่หลายครั้ง สุดท้ายเสียชีวิตจากไตวายและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ แต่ทางคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการได้ตรวจสอบมีข้อสรุปว่า รายนี้ถึงแม้ว่าการรักษาโรคโควิด-19 จะหายแล้ว ตรวจไม่พบเชื้อ แต่อาการภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นจากตัวโรคก็ให้นับเป็นผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19" นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 31,658 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 11,366 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 17,097 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,195 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 28,161 ราย เพิ่มขึ้น 33 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 97 ราย
นพ.โอภาส กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยลุกลามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระจายหลายจังหวัด ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และเดินทางข้ามจังหวัด เช่นเที่ยวผับเชียงใหม่และไปกระบี่ จำนวนผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ตั้งแต่ 22 มี.ค.-9 เม.ย. มีจำนวน 1,016 ราย ใน 40 จังหวัด
นอกจากนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทย มีอายุเฉลี่ยประมาณ 30 ปี จึงแสดงอาการน้อย และในการระบาดระลอกใหม่นี้พบข้อสังเกตุ ลักษณะอาการเพิ่มเติม เช่นตาแดง น้ำมูกไหล มีผื่นขึ้น
นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลที่มีทั้งหมดพบว่า ไวรัสที่ระบาดจากสถานบันเทิงครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์อังกฤษ หรือ ที่รู้จัก B117 เป็นสายพันธุ์หลักในการกระจายไป
"เชื้อไวรัสกลายพันธุ์เป็นปกติ แต่การกลายพันธุ์ที่สำคัญคือกระจายเชื้อรวดเร็ว มีอาการรุนแรงมากขึ้น และวัคซีนมีประสิทธิภาพลดน้อยลง สำหรับสายพันธุ์อังกฤษเป็นที่ทราบกันว่าสามารถกระจายเชื้อได้รวดเร็ว จากการตรวจในรอบนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการแล้วก็พบเชื้อออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้การติดต่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่พบต่อไปคือ ความรุนแรงของโรค ไม่ได้รุนแรงกว่าปกติ ไม่ได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ก็เป็นที่สบายใจได้ระดับหนึ่งว่ายกและการรักษาที่เรามียังมีประสิทธิภาพ"
สายพันธุ์นี้ต้นกำเนิดคือประเทศอังกฤษ ซึ่งมีการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าอย่างกว้างขวาง และหากเทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆที่ไม่ค่อยยอมฉีดแอสตร้าเซนเนก้า จำนวนผู้ติดเชื้อของอังกฤษลดลงอย่างชัดเจน เป็นหลักฐานว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าสามารถป้องกันการระบาดของสายพันธุ์อังกฤษที่กำลังระบาดในสถานบันเทิงของไทยได้
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 135,297,064 ราย เสียชีวิต 2,928,575 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 31,802,772 ราย อันดับสอง บราซิล 13,375,414 ราย อันดับสาม อินเดีย 13,202,783 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 4,980,501 ราย และอันดับห้า รัสเซีย 4,623,984 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 113