(เพิ่มเติม) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,458 ราย ในปท.1,346-ตรวจเชิงรุก 108-ตปท.4,ตาย 2

ข่าวทั่วไป Wednesday April 21, 2021 14:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,458 ราย ในปท.1,346-ตรวจเชิงรุก 108-ตปท.4,ตาย 2

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,458 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,346 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 108 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศผ่านการคัดกรองและเข้าสถานกักกัน 4 ราย มาจากประเทศญี่ปุ่น 3 ราย และ มาเลเซีย 1 ราย
  • เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายใน กทม. และนนทบุรี

รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี กรุงเทพมหานคร โรคประจำตัวคือ เบาหวาน ความดัน ไตวายเรื้อรัง และโรคอ้วน

วันที่ 10 เม.ย. เริ่มมีไข้ ไอ

วันที่ 13 เม.ย.ตรวจหาเชื้อ

วันที่ 14 เม.ย. และยืนยันติดเชื้อ

วันที่ 17 เม.ย. เข้ารับการรักษาเหนื่อยหอบ ผลเอ็กซเรย์ พบปอดอักเสบรุนแรง

วันที่ 19 เม.ย. การหายใจล้มเหลว และเสียชีวิต

ส่วนรายที่ 2 เป็น ชายไทย อายุ 32 ปี จ.นนทบุรี โรคประจำตัว ภูมิแพ้

มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยวันที่ 4 เม.ย.

วันที่ 8 เม.ย. มีอาการไข้ต่ำ ไอ เสมหะปนเลือด

วันที่ 15 เม.ย. เหนื่อยมากขึ้น

วันที่ 16 เม.ย. เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกซเรย์ มีปอดอักเสบรุนแรง

ต่อมาอาการแย่ลงและเสียชีวิตวันที่ 19 เม.ย.

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 46,643 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 22,583 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 20,814 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,246 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 29,371 ราย เพิ่มขึ้น 413 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 110 ราย

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า หากแยกผู้ติดเชื้อตามปัจจัยเสี่ยง จะพบว่ายังมาจากกลุ่มสถานบันเทิง และกลุ่มตลาด ชุมชม และขนส่ง และพบผู้ติดเชื้อจากปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เพิ่มสูงขี้น ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อาจไปสถานบันเทิงหรือตลาดแล้วไม่ได้มีอาการ จึงไม่ตะหนักว่าตัวเองมีเชื้อ แล้วเกิดการสัมผัสติดเชื้อในครอบครัว จึงส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ขอเน้นย้ำเกณฑ์ในการพิจารณาสำหรับผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่าจะอยู่ในระดับนั้น ให้พิจารณาจากถ้าหากอยู่ใกล้ คลุกคลีผู้ติดเชื้อในระยะ 2 เมตร มีการพูดคุยเกิน 5 นาทีโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการรับประทานร่วมกันใกล้ชิดกัน อาจถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ และหากสงสัยว่าตนเองจะติดเชื้อหรือไม่ ต้องไปตรวจหาเชื้อจากสถานที่ตรวจที่ได้มาตรฐาน วิธีการตรวจเป็นที่ยอมรับ เพราะที่ผ่านมา มีกรณีไปตรวจในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน และผลตรวจออกมาเป็นลบ แต่เมื่อผ่านไป 4-5 วัน กลับไปตรวจซ้ำ กลายเป็นผลบวก ส่งผลให้การช่วยเหลือเกิดความล่าช้า และอาจทำให้กลายเป็นผู้แพร่เชื้อให้กับผู้ใกล้ชิด หรืออาการอาจจะทรุดลง และเกิดอันตรายได้

พร้อมกันนี้ ขอให้ผู้ที่อยู่ในระยะรอฟังผลการตรวจ จะต้องเคร่งครัดในการสังเกตอาการ ห้ามเดินทาง ห้ามสัมผัสใกล้ชิดคนในครอบครัว แยกห้องน้ำ แยกของใช้ส่วนตัว ไม่ไปที่ชุมชม ลดกิจกรรมสังคม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และหากได้รับคำยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 สิ่งที่ต้องทำอันดับแรก คือให้สอบถามไปทางโรงพยาบาล เพื่อให้มีการคัดแยกว่าอาการป่วยอยู่ในระดับไหน เพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือไม่ ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการรอจัดสรรเตียง จะต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด

ส่วนข้อปฏิบัติเมื่อทราบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 นั้น ให้ผู้ป่วยเตรียมเอกสารหลักฐาน และโทรแจ้งโรงพยาบาลที่ไปตรวจก่อน และถ้าโรงพยาบาลที่ตรวจยังไม่สามารถหาเตียงให้ได้ภายใน 1-2 วัน ให้โทร 1668 และ 1330 ถ้าต้องการปรึกษาแนวทางการปฏิบัติตัวระหว่างรอเตียง โทร 1668 แต่หากมีไข้สูง หายใจเหนื่อย ถ่ายเหลวหลายครั้ง โทร 1669

สำหรับการเปิดโรงพยาบาลสนาม ทางกรมสุขภาพจิต รายงานว่า ได้เปิดเตียงเพิ่มอีก 91 เตียง รวมไปถึงบางขุนเทียน เพื่อรองรับผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะเร่งดูแลอย่างเต็มที่

ส่วนกรณีบุคลากรทางการแพทย์ใน จ.ระยอง เกิดภาวะอัมพฤกษ์ 6 ราย หลังได้รับการฉีดวัคซีนนั้น พญ.อภิสมัย ชี้แจงว่า อาการที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นโรคอัมพฤกษ์ แต่เป็นอาการคล้ายอัมพฤกษ์หรือที่เรียกว่า "สโตรก" มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง รู้สึกชา และจากรายงานล่าสุดทั้ง 6 รายมีอาการดีขึ้น โดยขอให้รอการติดตามความคืบหน้าจากทางกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 143,542,550 ราย เสียชีวิต 3,057,541 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 32,536,470 ราย อันดับสอง อินเดีย 15,609,004 ราย อันดับสาม บราซิล 14,050,885 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,339,920 ราย และอันดับห้า รัสเซีย 4,718,854 ราย โดยประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 106

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในส่วนของมาเลเซีย มีข่าวว่าทางการมาเลเซียเตรียมผลักดันคนไทยกลับประเทศ ซึ่งไทยได้เตรียมมาตรการรองรับคนกลุ่มนี้ไว้แล้ว


แท็ก ศบค.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ