รมช.กลาโหม สั่งเร่งปรับ SQ จำนวน 7 แห่งเป็น Hospitel พร้อมใช้งานต้น พ.ค.

ข่าวทั่วไป Saturday April 24, 2021 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ประชุมหน่วยงานในกำกับ, เหล่าทัพ, กอ.รมน.และ ตร.ผ่านระบบทางไกล ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อเร่งเสริมและสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยกำชับทุกเหล่าทัพให้เร่งขับเคลื่อนงานตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่สั่งการให้เร่งระดมทรัพยากรที่มีอยู่เข้าไปเสริมและสนับสนุนการทำงานของ สธ.หลังมีผู้ป่วยติดเชื้อและรอรับการรักษามากขึ้น

โดยขอให้เร่งจัดทำห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) และขยายความสามารถของโรงพยาบาลทหาร พร้อมทั้งจัดหาพื้นที่ในหน่วยทหารเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนหน่วยราชการในพื้นที่ จัดทำโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น โดยให้ประสานทำงานกับ สธ.ให้มีปริมาณเตียงเพียงพอ รองรับปริมาณผู้ป่วยในแต่ละสัปดาห์ที่มีการประเมิน พร้อมทั้งให้จัดรถพยาบาลจาก รพ.ทหาร รวมการให้การสนับสนุน ศปก.ศบค.และศูนย์เอราวัณ รับและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตกค้างเข้ารับการรักษา

รมช.กลาโหม ยังได้กำชับให้เร่งแปรสภาพสถานกักตัวควบคุมโรคของรัฐ (SQ) ที่กระทรวงกลาโหมดูแลอยู่รวม 22 แห่งเป็นหอผู้ป่วย ( Hospitel ) รองรับผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจาก รพ.โดยเร็ว โดยให้ประสานกับ สธ.และผู้ประกอบการที่มีความพร้อม ทั้งนี้มี SQ ที่พร้อมแปรสภาพเป็น Hospitel แล้วจำนวน 7 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 1,712 เตียง สามารถปฏิบัติงานได้ภายในต้นเดือน พ.ค.64 โดยให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ และยังคงการบริหารจัดการ SQ ที่เหลืออยู่ให้มีเพียงพอกับปริมาณคนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์เดินทางกลับต่อไป

นอกจากนี้ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำนโยบายของนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอให้ทุกเหล่าทัพ พิจารณาจัดบุคลากรในสายงานแพทย์ที่ผ่านการอบรม เข้าไปช่วยเสริมการทำงานของ สธ.ในการรับสายด่วน 1668 เพื่อรองรับปริมาณการแจ้งและดูแลผู้ป่วยที่มีมากขึ้นด้วย พร้อมทั้งขอให้พิจารณาสนับสนุน กทม.เป็นการเร่งด่วน จัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่คลองเตย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการรักษาและการควบคุมโรคร่วมกันในภาพรวม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ