อย. แจงขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดไม่จำเป็นต้องอ้างอิงรายการวัคซีนของ WHO

ข่าวทั่วไป Wednesday May 12, 2021 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีมีนักวิชาการตั้งข้อสงสัยกรณีรัฐบาลนำวัคซีนซิโนแวกที่ยังไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) มาฉีดให้แก่คนไทย ส่งผลให้คนไทยรับวัคซีนน้อยนั้นว่า วัคซีนของซิโนแวกเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีการอนุมัติให้ใช้กว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง อย. ได้ประเมินและขึ้นทะเบียนโดยผ่านเกณฑ์องค์การอนามัยโลกเรื่องประสิทธิผลในการป้องกันโรคมากกว่า 50%, สามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ 100%, ป้องกันการเกิดอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 77.9% (ผลการศึกษา Phase 3 จากประเทศบราซิล) รวมทั้ง ประสิทธิผลของการใช้วัคซีน ซิโนแวก ในประเทศชิลี พบว่า ป้องกันโรคได้ 67%, ป้องกันการเข้ารักษาในโรงพยาบาล 85%, ป้องกันการรักษาตัวในห้องผู้ป่วยหนัก 89% และป้องกันการเสียชีวิตได้ 80% (ข้อมูลจาก Evidence Assessment ของวัคซีนซิโนแวค องค์การอนามัยโลก)

นอกจากนี้ จากการศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดจากการฉีดวัคซีนของซิโนแวกครบ 2 เข็มแล้ว เป็นเวลา 1 เดือน ในประเทศไทย ของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ พบว่า เกิดภูมิต้านทาน 99.4% ในขณะที่ 4-8 สัปดาห์ หลังติดเชื้อโดยธรรมชาติ ตรวจพบภูมิต้านทานได้ 92.4% ส่วนวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO EUL) มีไว้สำหรับใช้ในโครงการ COVAX และอาจใช้อ้างอิงประกอบการพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนของประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีระบบการกำกับดูแลด้านวัคซีนที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าวัคซีนที่ไม่ได้อยู่ใน WHO EUL ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน เพราะการขึ้นทะเบียนในแต่ละประเทศไม่จำเป็นต้องอ้างอิงรายการวัคซีนขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะเห็นว่าวัคซีนของไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ต่างก็ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศต่าง ๆ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ประเทศในแถบยุโรป ก่อนได้รับรอง WHO EUL

ดังนั้น การที่กล่าวว่าวัคซีนที่แต่ละประเทศใช้ต้องเป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติ จึงเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ประเทศไทยมีระบบการกำกับดูแลวัคซีนที่ได้รับการรับรอง WHO PQ จากองค์การอนามัยโลก และเป็นสมาชิกของ PIC/s ด้วย จึงสามารถดำเนินการพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนได้อย่างมีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าก่อนการรับรองของ WHO EUL

นพ.ไพศาล กล่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนที่ผ่านการประเมินและได้รับทะเบียนจาก อย. เป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ อย. ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 3 รายการ ได้แก่ วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า วัคซีนของซิโนแวก และวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อยู่ระหว่างประเมินคำขอขึ้นทะเบียน 1 ราย คือ วัคซีนโมเดิร์นนา ดังนั้น อย. จึงขอเชิญชวนประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดได้โดยเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ