กก.ไตรภาคีสรุปขยายพื้นที่จ่ายชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิ

          ที่ประชุมคณะกรรมการ 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยึดแนวเส้นเสียงตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.49 ส่งผลให้พื้นที่ที่ได้รับการชดเชยเพิ่มขึ้นจาก 34 ตารางกิโลเมตร(ตร.กม.) เพิ่มเป็น 66 ตร.กม.พร้อมรับชดเชยสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกก่อนปี 49 โดยคาดว่าจะเสนอ ครม.ให้พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์
          "บรรยากาศในที่ประชุมมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างรุนแรง แต่เป็นบรรยากาศที่ดีที่ทุกฝ่ายพอใจในข้อสรุป หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะเร่งนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอให้ ครม.พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์" นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการฯ กล่าว
          ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบด้านเสียง 3 ข้อ คือ เรื่องแนวเส้นเสียงจะเสนอ ครม.ให้พิจารณาความช่วยเหลือโดยยึดแนวเส้นเสียงตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.49 ตามที่ประชาชนเรียกร้อง จากเดิมที่ยึดแนวทางตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 29 พ.ค.50 
          แต่จะมีการจัดลำดับการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 29 พ.ค.50 ก่อน โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขต NEF มากกว่า 40 จะต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
          ส่วนการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในส่วนของสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขต NEF มากกว่า 40 และปลูกก่อนปี 49 ตามมติครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.49 จากเดิมที่จะใช้ความช่วยเหลือเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกก่อนปี 44 เท่านั้น 
          สำหรับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขต NEF 30-40 ให้ บมจ.ท่าอากศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.รับซื้อกรณีที่ประชาชนเสนอขาย หรือให้ปรับปรุงตามความต้องการของประชาชน โดยให้มีการเจรจาราคาซื้อขายตามหลักเกณฑ์
          ในส่วนของหลักเกณฑ์การประเมินทรัพย์สินนั้นขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ ทอท.ไปกำหนดหลักเกณฑ์ประเมินทรัพย์สินร่วมกับประชาชนและบริษัทประเมินทรัพย์สิน ส่วนเรื่องสัญญาไม่ว่าจะเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญาปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างนั้น ผู้แทนสภาทนายความจะรับนำสัญญาที่ ทอท.จัดทำขึ้นไปพิจารณา และหารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อให้สัญญาเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าเป็นไปตามความพอใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
          นายชัยศักดิ์ เชื่อว่า ทอท.จะมีงบประมาณเพียงพอในการจ่ายเงินชดเชยให้กับประชาชนตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.49 ซึ่งงบประมาณที่ใช้อาจมาจากงบประมาณของ ทอท.เอง และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่มีความกังวลว่าจะใช้งบประมาณสูงถึง 1 แสนล้านบาทนั้น ทอท.จะต้องประเมินผลกระทบอย่างรอบคอบอีกครั้ง
          ด้านนายวันชาติ มานะธรรมสมบัติ ผู้แทนชาวบ้าน กล่าวว่า รู้สึกพอใจข้อสรุปของคณะกรรมการฯ หลังจากนี้จะต้องติดตามวิธีการทำงานของ ทอท.ให้เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยที่ผ่านมาชาวบ้านเพียงขอสิทธิที่ควรจะได้เท่านั้น ไม่ได้ขอสิทธิพิเศษอะไร และระหว่างนี้ก็คงจะไม่มีการชุมนุมอีก
          ระหว่างที่คณะกรรมการฯ ประชุมอยู่ได้มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้านเสียงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกว่า 300 คน มาชุมนุมรอฟังผลการประชุมที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงคมนาคม ซึ่งนายชัยศักดิ์ได้มาชี้แจงผลให้ประชาชนได้รับทราบผลทำให้ชาวบ้านรู้สึกพอใจและสลายการชุมนุม
          สำหรับแนวเส้นเสียงตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.49 จะครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 66 ตารางกิโลเมตร โดยมีสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขต NEF 40 จำนวน 1,800 หลังคาเรือน และมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในเขต NEF 30-40 จำนวน 25,000 หลังคาเรือน ส่วนแนวเส้นเสียงตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 29 พ.ค.50 จะครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 34 ตารางกิโลเมตร โดยมีสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขต NEF 40 จำนวน 773 หลังคาเรือน และมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในเขต NEF 30-40 จำนวน 18,293 หลังคาเรือน
          ด้านนายชวลิต เศรษฐเมธีกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบข้อสรุปของคณะกรรมการฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งเมื่อได้รับข้อสรุปแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการ ทอท.พิจารณาก่อน โดยการพิจารณาจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบทั้งเรื่องงบประมาณและผู้รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่าย