ตำรวจรวบ 2 ผู้ต้องหาก่อเหตุปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ คฝ.เจ็บสาหัสเมื่อ 11ก.ย.64

ข่าวทั่วไป Friday October 1, 2021 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวระบุว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 47/28 หมู่ 5 ซอยลำโพ 23 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ตามหมายจับพยายามฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจ ฯลฯ โดยปาระเบิดใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ ผบ.หมู่ บก.อคฝ.ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 บริเวณซอยต้นโพธิ์ ดินแดง กรุงเทพฯ พร้อมทั้งยึดของกลางวัตถุระเบิดแบบแสวงเครื่องจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 เวลาประมาณ 21.36 น.ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายปาระเบิดใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จนเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผลฉีกขาดบริเวณหน้า ตาขวา และมีเลือดออกในสมอง ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของประชาชน เนื่องจากคนร้ายไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายใช้วัตถุระเบิดที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกายอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนมีการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคระบาดไวรัสโควิด-19

โดย ผบ.ตร.ได้ควบคุมการสืบสวนด้วยตนเอง โดยสั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 และชุดสืบสวนของ บก.สส.บช.น., บก.สส.บช.ภ.2, บก.สส.บช.ภ.7, บก.น.1. และศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) ร่วมกันสืบสวนหาตัวคนร้าย และขยายผลไปหาต้นตอของวัตถุระเบิด จนกระทั่งสามารถสืบสวนพบว่าคนร้ายอยู่ในกลุ่มชื่อ "ก็มาดิแก๊ส" ซึ่งกลุ่มนี้มีพฤติกรรมนิยมใช้ความรุนแรง ทำการผลิตวัตถุระเบิด และใช้ขว้างทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย

ซึ่งในวันนี้ได้มียุทธการ "ปิดเกมส์กลุ่มก็มาดิแก็ส" โดยมีการตรวจค้น 9 จุด และจับกุมนายไพฑูรย์ สิงห์จารย์ (ทูร) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 และนายสุขสันต์ แก้วยศ (ตั๊ก) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 1590/2564 ลงวันที่ 29 ก.ย.64 โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บ้านพักเลขที่ 47/28 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่หน้าร้านเซเว่น อิเลฟเว่น สาขาอร่ามศรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.

ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 กับผู้ต้องหาที่ 2 ว่า ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ และร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่า 25 คน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมตาม มาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่ยอมเลิก, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ

พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย 1.วัตถุคล้ายระเบิดพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ จำนวน 25 ลูก 2.ประทัดลูกบอลไล่นก จำนวน 2 ถุง 3.ดินประสิว จำนวน 2 ถุง 4.ดินประสิวบดแล้ว จำนวน 1 แก้ว 5.กำมะถัน จำนวน 1 ถุง 6.ลูกแก้ว จำนวน 1 ถุง (160ลูก) 7.พลุไฟ จำนวน 6 อัน 8.หนังสติ๊ก จำนวน 2 อัน 9.ก้อนหิน จำนวน 1 กระสอบ 10.เทปพันสายไฟสีดำ จำนวน 2 ม้วน 11.เครื่องแต่งกายวันเกิดเหตุ (เสื้อ กางเกง และรองเท้า) 12.โทรศัพท์ที่ใช้งานช่วงเกิดเหตุ 2 เครื่อง 13.ธง ป้ายผ้า แสดงสัญลักษณ์และข้อความ 2 ผืน 14.รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ ทะเบียน 1 กฐ 6954 เพชรบูรณ์

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหา ได้เข้าไปปะปนกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณซอยต้นโพธิ์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.36 น.ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของบุคคลในเขตพื้นที่ที่มีคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด โดยพบผู้ต้องหาอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวใช้ความรุนแรงและต่อสู้ขัดขวางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ต้องหาใส่เสื้อสีดำมีตัวอักษรด้านหลังเสื้อสีขาวรูปตัวอักษร X ได้ใช้ระเบิดปาใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จนเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 11 ก.ย.64 ก่อนเวลาเกิดเหตุ จนสามารถยืนยันได้ว่าเป็นผู้ต้องหาที่ 1-2 อยู่ในกลุ่ม "ก็มาดิแก๊ส" จึงทำการตรวจสอบ ตั้งแต่กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมารวมกลุ่มกัน และเดินทางมาร่วมชุมนุมกันที่บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก โดยผู้ต้องหาดังกล่าวได้ใช้ความรุนแรงโดยใช้ระเบิดโยนใส่เจ้าหน้าที่ ต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาที่ 1-2 ได้เข้ามาในซอยต้นโพธิ์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ พบ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ และชุดสืบสวน ได้ตรวจสอบจนสามารถทราบว่านายไพฑูรย์ สิงห์จารย์ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นบุคคลที่สวมใส่เสื้อสีดำ ตัวอักษรสีขาวรูปตัว X ด้านหลังเสื้อ เป็นผู้โยนระเบิดใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ร่วมกันหลบหนีด้วยรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าจังหวัดนนทบุรี

ชุดสืบสวนสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-2 พร้อมด้วยของกลางปรากฏตามรายการของกลาง โดยผู้ต้องหาที่1-2 ให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน

เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ยอมรับว่า ในวันที่ 11 ก.ย.64 ได้เข้าร่วมชุมนุมที่แยกดินแดง โดยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาที่ 2 มาจากบ้านพักเลขที่ 47/28 ซอยลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ คฝ.เข้ามาในพื้นที่จึงได้หลบหนีเข้าไปในซอยต้นโพธิ์ และได้เจอกับเจ้าหน้าที่ คฝ.อีกกลุ่มหนึ่งจึงได้ปาระเบิดที่ได้ทำขึ้นมาเองจำนวน 1 ลูกไปทางเจ้าหน้าที่ คฝ.แล้ววิ่งหลบหนีไปบนแฟลตดินแดง แฟลตที่ 1 ชั้นบนสุด ต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่ คฝ.ถอนกำลังจึงได้ซ้อนท้ายรถจักรยายนต์ของผู้ต้องหาที่ 2 กลับที่พัก โดยการแต่งกายวันดังกล่าวได้สวมเสื้อยืดสีดำ มีลายสกรีนตัว X กางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าสีดำ โดยภายในกระเป๋ามีระเบิดที่ผลิตเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดจากบ้านพักของผู้ต้องหาที่ 1 ไว้เป็นของกลางแล้ว

ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 2 ยอมรับว่า ในวันที่ 11 ก.ย.64 ได้เข้าร่วมชุมนุมที่แยกดินแดง โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน 1 กฐ 6954 เพชรบูรณ์ โดยมีผู้ต้องหาที่ 1 ซ้อนท้ายมาด้วย โดยนำระเบิดที่ทำเองขนาดเท่ากำปั้นมือพันเทปสีดำติดตัวไปด้วยประมาณ 7-9 ลูก โดยใส่ในกระเป๋าสีดำสะพายหลัง สลับกันสะพายกับผู้ต้องหาที่ 1 เมื่อถึงแยกดินแดงได้นำผ้าคลุมตัวสีแดง และโพกผ้าศรีษะสีแดง และนำระเบิดมาปา 1 ลูก โดยผู้ต้องหาที่ 1 ได้สะพายกระเป๋าระเบิดไว้ เพื่อให้สามารถนำออกมาขว้างได้เลยไม่ต้องจุดชนวน

เมื่อเจ้าหน้าที่ คฝ.ได้ลงพื้นที่ จึงได้แยกกับผู้ต้องหาที่ 1 และได้ขว้างระเบิด 2 ลูกใส่อุโมงค์ขณะที่ คฝ.ขับรถผ่าน แล้วได้หนีขึ้นแฟลตดินแดง ต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่ คฝ.ถอนกำลังจึงได้ขับรถจักรยายนต์คันดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 ซ้อนท้ายกลับที่พัก ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรายยอมรับว่าได้ร่วมกันเป็นผู้ผลิตระเบิดแสวงเครื่องของกลางดังกล่าวด้วยตัวเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ