สธ.เร่งดูแลผู้ประสบอุทกภัย กำชับสถานพยาบาล 23 จ. รับมือความเสี่ยงน้ำท่วมจากมรสุม

ข่าวทั่วไป Thursday October 14, 2021 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุ "เตี้ยนหมู่" และพายุ "ไลออนร็อก" สธ. จึงได้มีการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยการส่งทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์จำนวน 347 ทีม เพื่อดูแลประชาชนและผู้ประสบภัยรวม 413,094 ราย ประกอบด้วย การเยี่ยมบ้าน 103,254 ราย แจกยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย 81,099 ราย ให้สุขศึกษา 84,973 ราย และให้บริการตรวจรักษา 81,963 ราย

ทั้งนี้ พบว่ากว่าครึ่งเป็นโรคน้ำกัดเท้า 40,285 ราย รองลงมาคือ อาการระบบผิวหนัง แพ้ ผื่นคัน 22,671 ราย และระบบกล้ามเนื้อและกระดูก 7,932 ราย ส่วนการประเมินสุขภาพจิต 61,985 ราย พบภาวะเครียดระดับมากขึ้นไป 433 ราย เสี่ยงภาวะซึมเศร้า 49 ราย และภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 5 ราย อย่างไรก็ดี ได้มีการติดตามดูแลโดยทีมสุขภาพจิตแล้ว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนยา และเวชภัณฑ์จากส่วนกลางไปเพิ่มเติมที่จังหวัดตราดอีก 3,000 ชุด รวมสนับสนุนแล้ว 10 จังหวัด 11,900 ชุด

สำหรับพายุทั้ง 2 ลูก คือ 1. พายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมรวม 33 จังหวัด โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, มหาสารคาม, นครราชสีมา, นครสวรรค์, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวม 90,507 ครัวเรือน และ 2. พายุ "ไลออนร็อก" ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรวม 8 จังหวัด โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี และตราด รวม 5,427 ครัวเรือน ดังนั้นจึงต้องเปิดศูนย์พักพิงเพิ่ม 4 แห่งใน จังหวัดจันทบุรี เพื่อดูแลผู้ประสบภัยรวม 250 ราย

ในส่วนของภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 2 เหตุการณ์ มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 107 ราย และเสียชีวิต 61 ราย โดยได้มีการเปิดศูนย์พักพิงรวม 112 แห่ง ผู้รับบริการทั้งหมด 6,096 ราย นอกจากนี้มีสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 142 แห่ง เปิดบริการได้ปกติ 116 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 17 แห่ง และปิดให้บริการ 9 แห่ง โดยมีการจัดระบบบริการดูแลผู้ป่วยไม่ให้ได้รับผลกระทบแล้ว

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังมีร่องมรสุมพาดผ่านเข้าสู่พายุโซนร้อน "คมปาซุ" ในอ่าวตังเกี๋ย และมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง และน้ำท่วมฉับพลันอีก 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, จันทบุรี, ตราด, นครราชสีมา, นครสวรรค์, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, ศรีสะเกษ, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด, สระบุรี, ปทุมธานี, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, ยโสธร, กาฬสินธุ์, ระนอง, สุรินทร์, พังงา และนครปฐม

ทั้งนี้ มีสถานบริการสาธารณสุขเสี่ยงได้รับผลกระทบจำนวน 1,576 แห่ง ดังนั้นขอให้ประเมินสถานการณ์ และเฝ้าระวังต่อเนื่อง ทั้งอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ต่างๆ ให้ใช้หลักป้องกัน ยกสูง เคลื่อนย้าย สำรองยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ และเตรียมจัดบริการทางการแพทย์ สถานที่สำรอง หรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ