สธ.เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 ลดความเสี่ยงโควิดในสถานศึกษา

ข่าวทั่วไป Friday November 5, 2021 10:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการที่โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเรียนรูปแบบ On Site ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้วกว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศ และจะทยอยเปิดเรียนมากขึ้นตามความพร้อม จึงต้องเน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัย 6-6-7 เพื่อลดความเสี่ยงโควิดในสถานศึกษา

โดยมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด และทำความสะอาด 6 มาตรการเสริม ดูแลตนเอง ใช้ช้อนกลางส่วนตัว กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ และกักกันตัวเอง ส่วนแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา 1.ประเมิน TSC+ และรายงานผลผ่าน MOE COVID อย่างต่อเนื่อง 2.Small Bubble ทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย 3.อาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ 4.อนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งอากาศ ความสะอาด น้ำ ขยะ 5.School Isolation มีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อม 6.Seal Route ดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน และ 7.School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาได้รับวัคซีนจำนวนมากที่สุดอย่างน้อย 85%

"ในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ไปเรียนในโรงเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรเน้นย้ำกับบุตรหลานว่าไม่ควรถอดหน้ากากอนามัย ไม่ลืมตรวจ ATK ไม่เล่นเป็นทีมหรือกลุ่มใหญ่ ไม่นั่งติดกันทั้งเวลาเรียน คุยเล่น ทานข้าว และไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน สำหรับการเรียนภายในห้องเรียนต้องไม่เกิน 25 คนต่อห้อง รวมถึงไม่เปิดแอร์เรียนนานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องมีการเปิดหน้าต่างระบายอากาศ หากทุกคนในสถานศึกษาร่วมมือร่วมใจทำตามมาตรการอย่างเคร่งครัดก็จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อโควิด 19 ในสถานศึกษาได้ และเมื่อลูกหลานกลับมาถึงบ้านแล้ว ควรรีบล้างมือ อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย อีกทั้งยังต้องเฝ้าสังเกตอาการทุกวัน หากคนในครอบครัวสงสัยว่าติดเชื้อโควิด 19 ให้รีบตรวจ ATK พร้อมกักตัวเองแยกออกจากคนในบ้าน หากสงสัยว่าติดเชื้อโควิด 19 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422" นพ.โอภาส กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เด็กนักเรียนและนักศึกษาอายุ 12-17 ปี จนถึงวันที่ 2 พ.ย.64 ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ป้องกันโควิด-19 เข็มแรกแล้ว 2,493,957 คน หรือ 55.4% เข็มที่สอง 606,942 คน หรือ 13.5% จากเป้าหมาย 4.5 ล้านคน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนไปแล้วแต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ