ที่ปรึกษา ศบค.เตือนประชาชนเตรียมใจแย้มอาจเลิกรักษาฟรีโควิดใน 1-2 เดือน

ข่าวทั่วไป Friday February 11, 2022 11:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบประมาณในการดูแลเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก และให้บริการฟรีหมดทุกอย่าง ดังนั้นประชาชนต้องเตรียมใจที่จะมีการเปลี่ยนผ่านไปถึงช่วงที่รัฐบาลอาจไม่สามารถให้บริการตรวจรักษาโรคติดเชื้อโควิดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งที่ประชุมศบค.วันนี้จะพิจารณาการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะกลับมาเพิ่มขึ้น

"ผมคิดว่ารัฐบาลก็ไม่ไหว คือต้องยอมรับว่าเราใช้เงินเยอะมาก รัฐบาลทุ่มเงินให้ฟรีหมด ไม่มีประเทศไหนให้ฟรีได้มากเท่าประเทศเรา ถ้าพูดกันตรงๆ ผมคิดว่าตอนนี้เราต้องช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้ต้องทำใจ ผมคิดว่าเราต้องเตรียมใจในช่วงที่จะต้องเปลี่ยนผ่านกับโรคระบาดทั่วโลก ซึ่งต้องฝากให้ทำความเข้าใจกับประชาชน เราอาจเหมือนยุโรปกับอเมริกา เพียงแต่เราจะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เราต้องใช้เวลาเตรียมตัว อย่างที่ประชุมสาธารณสุขช่วงเช้าผมบอกว่าอีกซัก 1-2 เดือน เราอาจต้องประกาศเหมือนประเทศสวีเดน แต่ต้องเตรียมตัวประชาชนให้ดี" นพ.อุดม กล่าว

สำหรับสถานการณ์ในประเทศคาดว่าในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้จะมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจากวันนี้ที่มี 15,000 ราย มากขึ้นไปถึงวันละ 17,000-18,000 ราย ซึ่งอยู่ในคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข แต่หวังว่าจะไม่ถึง 20,000 รายในช่วงสิ้นเดือน ก.พ.นี้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนที่ต้องช่วยกัน

"ทุกคนอึดอัดมา 2 ปี อยากผ่อนคลาย และอยากให้เศรษฐกิจเดินหน้า แต่ขณะนี้ผู้ที่เจ็บป่วยรุนแรงน้อยลงถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยหนักลดลงถึง 10 เท่า ถือเป็นข้อดีที่เรายังสู้ไหว แม้จะไม่รุนแรงแต่ขอให้ประชาชนเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ขณะนี้วัคซีนมีจำนวนมากแต่มีผู้ไปฉีดน้อย ซึ่งเข็ม 3 มีข้อมูลชัดเจนว่าช่วยป้องกันได้"นพ.อุดม กล่าว

ที่ปรึกษา ศบค.กล่าวว่า ไม่อยากให้ประชาชนตระหนกที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้องบอกว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ไม่อยากให้สูงถึง 20,000 ราย เพราะจะทำให้มีสัดส่วนผู้ป่วยหนักสูงขึ้น ถ้าไม่สูงเกิน 20,000 รายต่อวันก็สามารถสู้ไหวแบบสบายๆ กำลังด้านสาธารณสุขมีเพียงพอทุกอย่าง ระบบได้ทำไว้ดีหมดแล้ว

สำหรับการฉึดวัคซีนในเด็กอายุตั้งแต่ 5-11 ปียังมีการฉีดน้อยมาก เนื่องจากผู้ปกครองมีความกังวล ซึ่งหากไม่ต้องการฉีดไฟเซอร์ ก็มีซิโนแวคและชิโนฟาร์มเป็นอีกทางเลือก ขณะที่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุขจะให้ใช้สูตรไขว้ได้ เพื่อให้ภูมิขึ้นเร็ว ซึ่งขอให้เด็กไปรับการฉีดวัคซีน เพราะการระบาดในเด็ก เมื่อเด็กป่วยแล้ว เชื้อจะกระจายไปทั่วร่างกาย ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าผู้ใหญ่ที่เชื้อลงปอดเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ