(เพิ่มเติม1) ศาลปกครอง ตัดสินคกก.คัดเลือก-รฟม.แก้ TOR-ล้มประมูลรถไฟฟ้าสีส้มไม่ชอบด้วยกม.

ข่าวทั่วไป Thursday July 7, 2022 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลางพิพากษามติที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ยกเลิกการประกวดราคา และประกาศของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยกเลิกการประกวดราคาโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ดังนั้น จึงพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างภารัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ลงวันที่ 3 ก.ค.63 และมติที่ได้ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว และ ศาลฯให้เพิกถอนประกาศของ รฟม.เรื่องยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64

อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองกลางไม่รับคำของของ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ที่ขอให้ศาลมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยห้ามคณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม.ใช้เอกสารสำหรับการเลือกตั้งเอกชนฉบับใหม่ แล้วให้กลับไปคัดเลือกเอกชนตามหลักเกณฑ์วิธีการตามเอกสารฉบับเดิม

ส่วนการที่ คณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม.อ้างว่า ภายหลัง รฟม. ยกเลิกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนและยกเลิกการคัดเลือกเอกชนในโครงการดังกล่าวแล้ว ผู้ซื้อเอกสาร RFP ทุกราย รวมทั้ง บมจ.ชิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ยื่นข้อเสนอร่วมกับ BTSC ได้รับค่าธรรมเนียม RFP คืนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1-9 มี.ค.64 โดย รฟม.คืนชองเอกสารข้อเสนอ หลักประกันซอง ค่าธรรมเนียม การประเมินข้อเสนอและค่าธรรมเนียมการขายเอกสาร RFP ให้แก่เอกชนผู้ยื่นข้อเสนออีกราย คือ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รฟม.จึงไม่สามารถดำเนินการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนฯ ลงวันที่ 3 ก.ค.63 ได้อีกต่อไป

ประกอบกับ รฟม.ได้เริ่มดำเนินการคัดเลือกเอกชนใหม่อีกครั้ง ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โดยออกประกาศการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนประกอบการพิจารณาจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ -มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 เพื่อมาประกอบการจัดทำร่างประกาศเชิญชวนฯ นั้น

ศาลฯ เห็นว่าหากกรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ และรฟม.เห็นว่ามีเหตุสมควรและมีความจำเป็นที่จะต้องมีมติและประกาศให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนฯในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ -มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 3 ก.ค. 63 และให้ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ที่มาตรา 6 ของพ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 และตามเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 แล้ว คณะกรรมการคัดเลือกฯและรฟม.ก็มีอำนาจจะมีมติและประกาศให้ยกเลิกการเชิญชวนการ่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ลงวันที่ 3 ก.ค.63 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าวอีกครั้งภายใต้หลักเกณฑ์วิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ในกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า หลังจากนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย รฟม.สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาได้ภายใน 30 วัน

ขณะที่การประกวดราคารอบใหม่ ปัจจุบัน BTS ก็เข้าร่วมซื้อซองเอกสาร แต่ยอมรับว่าหลักเกณฑ์คัดเลือกด้านคุณสมบัติในการประมูลรอบนี้แตกต่างจากเกณฑ์รอบแรกอย่างมาก ดังนั้น จากคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในวันนี้ที่ชี้ว่าการยกเลิกประมูลครั้งก่อนเป็นผลจากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์คัดเลือกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะต้องรอดูว่า รฟม.จะดำเนินการอย่างไร และใช้หลักเกณฑ์ใด

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า คำพิพากษาของศาลปกครองกลางวันนี้ ชี้ให้เห็นว่าการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในการประมูลครั้งแรกนั้นยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ เพราะเพิกถอนคำสั่งยกเลิกประมูลครั้งก่อนไปแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วโครงการเดียวก็ต้องมีการประมูลในครั้งเดียว และใช้หลักเกณฑ์เดียว ดังนั้นการกระมูลรอบใหม่ที่ รฟม.กำลังจะเปิดรับซองเอกสารจากเอกชนในวันที่ 27 ก.ค.นี้จะดำเนินการอย่างไร คงต้องรอดูการพิจารณาจาก รฟม.อีกครั้ง เพราะถือว่าปัจจุบันการประมูลครั้งแรกยังไม่แล้วเสร็จ แม้ว่าจะมีการคืนซองข้อเสนอของเอกชนไปบ้างแล้ว แต่ศาลฯ ก็ชี้แนะว่าการประมูลรอบใหม่ก็ยกเลิกได้แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

"ศาลให้ความยุติธรรมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนี้ก็เหลือคดีทางอาญาที่ศาลมีคำสั่งนัดในวันที่ 27 ก.ย.นี้ การตัดสินครั้งนี้เราก็ดีใจ เพราะถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างบรรทัดฐานการประมูล เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะชนะหรือแพ้ แต่อยากให้การประมูลเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้"นายสุรพงษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ