นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชนในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน 28-31 ก.ค.นี้ โดยขอให้ประชาชนดูแลตนเอง ปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุขส่วนบุคคล (Universal Prevention) เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย เมื่อจะออกเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่จะใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เครื่องบิน รถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งขณะที่อยู่ในสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก เช่น สถานีขนส่ง ตลาด สถานที่ท่องเที่ยวที่แออัด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากาก เว้นระยะห่างเท่าที่จะปฏิบัติได้ รวมทั้งระมัดระวังความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนน ตรวจสภาพยานพาหนะ ปฏิบัติตามกฎจราจร ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม บูรณาการร่วมกันให้ประชาชนเดินทางสะดวก ปลอดภัย และห่างไกลโควิด-19 ขอให้จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เน้นการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงเพื่อกระจายปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก ในพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง ต้องติดตั้งป้ายเตือนการก่อสร้างและเส้นทางเลี่ยง พร้อมทั้งให้เข้มงวดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาการเดินทาง
"นายกฯ ได้เน้นให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยถือปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และคำสั่ง ศบค. ย้ำให้ตรวจสอบกำกับดูแลการให้บริการขนส่งสาธารณะตามแนวทางที่กำหนด" นายธนกร ระบุ
สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคม ได้จัดแผนรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการเดินทาง และการควบคุมโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.-1 ส.ค. 65 เพื่ออำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการทุกคน ดังนี้
บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดรถโดยสาร บขส. รถร่วม รถตู้ กว่า 2,900 เที่ยว รองรับผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางสายยาววานนี้ (27 ก.ค.) ได้กว่า 30,000 คน โดยในวันนี้คาดว่าจะเป็นการเดินทางในสายสั้นที่มีระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร บขส. ได้เตรียมรถโดยสารกว่า 2,600 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 25,000 คน ส่วนในเที่ยวกลับ คาดการณ์ว่าประชาชนจะเดินทางหนาแน่นวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. 65 ซึ่ง บขส. ได้จัดรถโดยสาร บขส. รถร่วม รถตู้ กว่า 2,900 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้กว่า 30,000 คน ทั้งนี้ บขส. ยังคงตรึงราคาค่าโดยสารในอัตราเดิมทุกเส้นทาง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชนไปจนถึง 30 ก.ย. 65
ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถออกวิ่งในเส้นทางปกติเฉลี่ยวันละ 2,739 คัน จำนวน 17,301 เที่ยว จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน สาย A1 A2 A3 A4 และ S1 จำนวน 5 เส้นทาง รวม 46 คัน จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จตุจักร/เอกมัย/สายใต้ใหม่ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีกลางบางซื่อ รวม 34 เส้นทาง
โดยมีมาตรการความปลอดภัย กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้งก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานฯ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ การทำความสะอาดผ้าม่าน ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และกล่าวเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในวันหยุดยาว กรมทางหลวงเปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ช่วงสีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กม. โดยให้บริการฟรี ขาออกวันที่ 28-29 ก.ค. 65 และขาเข้าวันที่ 30-31 ก.ค. 65
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เปิดให้ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ จอดรถฟรี ณ ลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้จำนวน 718 คัน ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-1 ส.ค. 65 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ถึงเวลา 24.00 น. ของที่ 1 ส.ค. 65 รวม 6 วัน โดย ทสภ. ได้จัดรถ Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ-ส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารระหว่างลานจอดรถระยะยาวโซน C และอาคารผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ทสภ. แจ้งขอความร่วมมือผู้โดยสารที่เดินทางเที่ยวบินระหว่างประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง และเที่ยวบินภายในประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงด้วย