นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกิดความชัดเจนถึงช่วงเวลาของระดับน้ำที่จะลดลง และเตรียมพร้อมจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนเชิงพื้นที่ในการระดมกำลังคน ทรัพยากรต่างๆ เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงงบประมาณในการเข้าไปฟื้นฟูเยียวยาพื้นที่ที่คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ กอนช. ได้ทำหนังสือด่วนถึง 6 กระทรวงหลัก เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการวางแผนให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงรับทราบถึงแผนการระบายน้ำออกจากทุ่งลุ่มต่ำ
"กนอช. ได้ทำหนังสือด่วนถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข โดยส่งข้อมูลคาดการณ์ช่วงเวลาที่สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะเริ่มทยอยเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือน พ.ย.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างด้วยเช่นกัน" เลขาธิการ สทนช. กล่าว
สำหรับภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง และภาคอีสาน ขณะนี้มีแนวโน้มลดลง และเริ่มคลี่คลายตามลำดับ เนื่องจากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่ ซึ่งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ภาคกลาง และภาคอีสาน ยังคงวางแผนการบริหารจัดการน้ำ หน่วงน้ำ ชะลอน้ำ และกักเก็บน้ำ รวมถึงการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ส่งผลให้พื้นที่ประสบอุทกภัยลดลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์ลุ่มเจ้าพระยาล่าสุด พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักทุกสถานีมีแนวโน้มลดลง ตั้งแต่แม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสะแกกรัง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.65 เมตร ปัจจุบันระบายน้ำ 2,221 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อน 15.11 เมตร ลดลง 14 เซนติเมตร (ซม.) ส่วนลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูล ระดับน้ำลดลงแต่ยังคงสูงกว่าตลิ่ง โดยที่สถานี M.7 จังหวัดอุบลราชธานี สูงกว่าตลิ่งฝั่ง อ.วารินชำราบ 3.26 เมตร ลดลงจากเมื่อวาน (26 ต.ค. 65) 13 ซม. ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำจะลดต่ำกว่าตลิ่งตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ย. นี้
นายสุรสีห์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมปัจจุบันคงเหลือรวม 29 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด พิษณุโลก พิจิตร อุทัยธานี และนครสวรรค์, ภาคกลาง 10 จังหวัด สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยนาท นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี และสระบุรี, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด หนองบัวลำภู ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ยโสธร นครราชสีมา และสุรินทร์, ภาคตะวันออก 2 จังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี และภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
"กอนช. โดยศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงเร่งติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และอำนวยการการปฏิบัติงาน บริหารจัดการมวลน้ำ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายโดยเร็วที่สุดตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการระบายน้ำอย่างเร่งด่วน คู่ขนานไปกับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทันที" นายสุรสีห์ กล่าว