ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปะทะ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
โดยเมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนต่อการแข่งขันทางการเมืองระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พบว่า
- พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แตกกัน เป็นเพียงแค่การแข่งขันทางการเมือง 46.56%
- การเมืองไม่มีมิตรแท้และศรัตรูที่ถาวรรองลงมา 28.93%
- เป็นสีสันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 20.53%
- พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจทางการเมืองและการบริหารประเทศ 12.52%
- การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส.รวมกันแล้วน้อยกว่าจำนวน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 62 10.76%
- พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ แตกกันอย่างแน่นอน 9.01%
- พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ เป็นอิสระมากขึ้น สามารถร่วมรัฐบาลกับฝั่งไหนก็ได้หลังการเลือกตั้ง 8.78%
- การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส.รวมกันแล้วมากกว่าจำนวน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 62 6.56%
- ผู้ที่เคยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่ชอบพรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์มากขึ้น 6.34%
เมื่อถามว่า ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พปชร. ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ รทสช. ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคใดจะได้จำนวน ส.ส. มากกว่ากัน พบว่า
- ส่วนใหญ่ 42.75% ระบุว่า ทั้งสองพรรค จะได้จำนวน ส.ส. เท่า ๆ กัน
- รองลงมา 25.73% ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ ของพล.อ.ประวิตร จะได้จำนวน ส.ส. มากกว่า
- ส่วนอีก 24.73% ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จะได้จำนวน ส.ส. มากกว่า
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะจับมือกันในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่า
- ส่วนใหญ่ 38.40% ระบุว่า เป็นไปได้มาก
- รองลงมา 30.07% ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้
- ส่วนอีก 18.32% ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย
- และอีก 11.76% ระบุว่า ไม่ค่อยเป็นไปได้
อนึ่ง ผลการสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-25 มกราคม 2566