คกก.โรคติดต่อฯ ปรับเอกสารรับรอง "วัคซีนโควิด" รวมกับวัคซีนอื่นเป็นฉบับเดียว

ข่าวทั่วไป Thursday July 6, 2023 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่ 4/2566 โดยมีกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง ดังนี้

1. แผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการต่อต้านวัณโรค ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของประเทศไทย ตามที่องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศยุทธศาสตร์ยุติวัณโรค ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) ซึ่งแผนปฏิบัติการฉบับนี้ มีเป้าหมายหลักลดอุบัติการณ์ของวัณโรคลงจาก 143 ต่อประชากรแสนคน ในปี 2564 ให้เหลือ 89 ต่อประชากรแสนคน ในปี 2570

2. ร่างประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพิ่มเติมผู้แทนจากหน่วยงานของรัฐ ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 จังหวัดตาก ได้แก่ ผู้แทนจากสาธารณสุขอำเภอแม่สอด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวังตะเคียน เพื่อให้การปฏิบัติงานที่ด่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับจำนวนผู้เดินทางที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

3. ร่างประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เรื่อง การออกหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตามความในมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ฉบับเอกสารรับรองกรณีโรคโควิด-19 ซึ่งแยกเป็นเล่มเฉพาะโควิด-19 และปรับเป็นเอกสารฉบับรวม

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกของประชาชนผู้เดินทางระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนที่ประเทศปลายทางกำหนด เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น วัคซีนอหิวาตกโรค วัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมถึงวัคซีนโควิด-19 จะได้ถือเอกสารเพียงฉบับเดียว โดยมีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมควบคุมโรค เช่น โรงพยาบาลรัฐ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เป็นผู้ออกหนังสือให้

4. การบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ความต้องการวัคซีนและความจำเป็น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและความคุ้มค่า ให้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับกลุ่มเป้าหมายในปี 2567 โดยสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาถือว่าดีขึ้นมาก จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตลดน้อยลงมาก ส่วนการระบาดเป็นกลุ่มก้อนลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ที่น่าห่วงคือ ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดยังคงเป็นกลุ่ม 607 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีด 2 เข็มนานแล้วและไม่ได้รับเข็มกระตุ้น กระทรวงสาธารณสุข จึงรณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรค เรื้อรัง 7 กลุ่ม เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในฤดูฝนนี้ เพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต

สำหรับโรคไข้เลือดออก พบการระบาดในหลายพื้นที่ตั้งแต่ต้นฤดูฝน โดยได้สื่อสารให้ทุกจังหวัดเร่งรัดกิจกรรมการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก เช่น กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ควบคุมยุงลายในพื้นที่ระบาด และให้ความรู้เรื่องอาการป่วย เพื่อให้ประชาชนตระหนักและเข้ารับการรักษาโดยเร็ว ป้องกันการเสียชีวิต

อย่างไรก็ดี มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นกำลังสำคัญในหมู่บ้านช่วยสอดส่องดูแล แนะนำชาวบ้านให้ร่วมมือกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำในบ้านเรือน โรงเรียน วัด ศาสนสถาน และสถานที่สาธารณะ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ