![กอนช. เสริม 3 มาตรการรับมือเอลนีโญ เน้นแก้ขาดแคลนน้ำกิน-น้ำใช้](/img/files/20230816/iqef058ff91c368793e42365d750288df6-0.jpg)
พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) โดยได้รับทราบสถานการณ์จากอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่กำลังประสบปัญหาเป็นอย่างมาก เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกน้อยในหลายพื้นที่ และแหล่งน้ำมีปริมาณน้ำจำกัด โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค
ถึงแม้ปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตามนโยบาย 12 มาตรการ รับมือฤดูฝนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ และยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงได้ และขณะเดียวกันปรากฏการณ์เอ็นโซ่ (ENSO) อยู่ในสภาวะเอลนีโญ และจะมีแนวโน้มที่มีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.66 ทำให้ประเทศไทยช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.66 มีปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ
![กอนช. เสริม 3 มาตรการรับมือเอลนีโญ เน้นแก้ขาดแคลนน้ำกิน-น้ำใช้](/img/files/20230816/iqef058ff91c368793e42365d750288df6-1.jpg)
ที่ประชุมยังได้พิจารณาเห็นชอบร่างมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 เพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ ซึ่งประกอบด้วย 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1) การจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เกี่ยวกับการวางแผนการระบายน้ำ 2) ให้ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง (ตลอดช่วงฤดูฝน) และให้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกร และ 3) ให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (ตลอดช่วงฤดูฝน) ได้แก่ การใช้น้ำภาคการเกษตร เช่น การปลูกพืชใช้น้ำน้อย การปรับปรุงระบบการให้น้ำพืช และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น รวมถึงการประหยัดน้ำของทุกภาคส่วน ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมใช้ระบบ 3R เพื่อลดการใช้น้ำจากแหล่งต่างๆ และการลดการสูญเสียน้ำในระบบประปา และระบบชลประทานด้วย
![กอนช. เสริม 3 มาตรการรับมือเอลนีโญ เน้นแก้ขาดแคลนน้ำกิน-น้ำใช้](/img/files/20230816/iqef058ff91c368793e42365d750288df6.jpg)
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช.และหน่วยงานต่างๆ เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้ประชาชน รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทั่วถึง ทันเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมและจัดลำดับความสำคัญในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคอย่างเพียงพอของประชาชนเป็นอันดับแรก น้ำที่เหลือจึงใช้เพื่อการอื่นๆ รวมถึงพื้นที่ EEC ที่มีความสำคัญด้วยต่อไป พร้อมรณรงค์ขอให้ประชาชน เกษตรกร และทุกภาคส่วน ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า