เร่งกู้รถไฟตกรางที่จังหวัดแพร่ให้กลับมาเปิดบริการภายในเย็นนี้

ข่าวทั่วไป Sunday October 1, 2023 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เร่งกู้รถไฟตกรางที่จังหวัดแพร่ให้กลับมาเปิดบริการภายในเย็นนี้

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวระหว่างลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการกู้ขบวนรถไฟตกราง และตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วมว่า ตนได้กำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากทั้ง 2 เหตุการณ์ โดยเร่งปรับปรุงทางรถไฟที่เสียหายให้กลับมาเปิดใช้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างกล รฟท.ได้เร่งดำเนินอย่างต่อเนื่องในการยกรถที่ตกรางเพื่อไม่ให้กีดขวางการเดินรถ และฝ่ายการช่างโยธาได้เข้าดำเนินการเร่งปรับปรุงสภาพทางที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้สามารถเปิดการเดินรถสายเหนือได้ภายในวันนี้ เวลา 18.00 น.

นอกจากนี้ ให้ รฟท.ดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 ตกราง โดยจัดบริการอาหารและน้ำดื่ม พร้อมทั้งจัดรถบัสขนถ่ายผู้โดยสาร อำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานีต่างๆ ให้เกิดความรวดเร็วและปลอดภัย และให้รายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแก้ปัญหาการเดินทางให้ผู้โดยสารในขบวนรถที่ตกค้างทุกๆ 6 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเดินรถให้ประชาชนรับทราบ เพื่อให้วางแผนการเดินทางได้อย่างถูกต้อง

รมช.คมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้การรถไฟฯ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ฝ่ายการช่างโยธา และนายสถานีทุกพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนตกอย่างใกล้ชิด โดยให้เฝ้าระวังเพื่อประเมินและแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ มาตรการด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หากไม่ประสงค์เดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มจำนวนที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย.66 ช่วงเช้ามืดในพื้นที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากผ่านทางรถไฟระหว่างเสาโทรเลขที่ 557/6 ถึงเสาโทรเลขที่ 558/13 โดยให้น้ำได้พัดหินโรยทางและดินคันทางจำนวนหลายแห่ง เมื่อขบวนรถแล่นผ่านส่งผลให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่) ขณะทำขบวนถึงบริเวณเสาโทรเลขที่ 557/6-8 ระหว่างสถานีแก่งหลวง-สถานีบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เมื่อเวลา 05.48 น. รถจักรดีเซลไฟฟ้า 5246 ตกรางทุกเพลาทุกล้อพลิกตะแคงด้านซ้ายทาง และมีรถพ่วงตกรางอีก 3 คัน ได้แก่ รถโบกี้สัมภาระ (บพห. 1026) กับรถนั่งและนอนชั้นสองปรับอากาศ (บนท.ป. 1138) ตกรางทุกเพลาทุกล้อ และรถนั่งและนอนชั้นสองปรับอากาศที่พ่วงคันที่สาม (บนท.ป. 1115) ตกราง หนึ่งเพลาสองล้อ โดยพนักงานและผู้โดยสารปลอดภัยทุกคน แต่กีดขวางการเดินรถไฟสายเหนือ เนื่องจากต้องปิดทาง เพื่อยกรถที่ตกรางและซ่อมบำรุงทางให้มีความมั่นคงแข็งแรงก่อนเปิดให้บริการ

เนื่องจากสภาพทางบริเวณดังกล่าวไม่มีหินโรยทางรองรางเพราะถูกน้ำพัดไปยาวประมาณ 20 เมตร ต้องปรับฐานเพื่อตั้งขาของรถโบกี้ปั่นจั่นให้มั่นคง จึงทำให้งานล่าช้าจากเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับแผนงานในวันนี้ได้ดำเนินการยกรถ บนท.ป. 1138 ที่ตกรางทุกเพลาทุกล้อเบี่ยงออกเสร็จแล้ว จากนั้นจึงจะยกรถ บพห.1026 โดยยกเบี่ยงออกให้พ้นเขตโครงสร้างทางรถไฟก่อน เพื่อให้ฝ่ายการช่างโยธา รฟท. ดำเนินซ่อมบำรุงทางและตรวจร่วม 4 ฝ่าย เพื่อประเมินความมั่นคงแข็งแรงก่อนเปิดทางรถไฟ จากนั้นจึงให้รถโบกี้ปั้นจั่น 42 จากอุตรดิตถ์เดินไปอยู่ทางบ้านปิน และให้รถโบกี้ปั้นจั่น 43 ที่มาจากบางซื่ออยู่ฝั่งด้านสถานีแก่งหลวง โดยใช้รถโบกี้ปั้นจั่นทั้ง 2 คันยกรถจักรที่ตกรางให้แล้วเสร็จ ส่วนฝ่ายการช่างโยธาได้ดำเนินการซ่อมบำรุงทางฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถเปิดการเดินรถไฟสายเหนือได้อย่างปลอดภัยโดยเร็ว

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กรมการขนส่งทางรางจะจัดประชุมหารือกับ รฟท.เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยจะมีการพิจารณาทิศทางการไหลของน้ำ ลักษณะภูมิประเทศและสภาพทางกายภาพของทางรถไฟ ช่องท่อลอด/ทางระบายน้ำที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว เพื่อหาแนวทางป้องกันน้ำเซาะทางรถไฟโดยออกแบบเป็นสะพานคอนกรีต (Short Span Bridge) ต่อไป

รวมทั้งขอให้ รฟท.พิจารณาสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม สำรวจช่องลอด/ท่อระบายน้ำ และกำจัดวัสดุที่อุดปิดหรือกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ รวมทั้งพิจารณาติดตั้งระบบตรวจวัดปริมาณน้ำฝน จัดทำ Application หรือระบบแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดความเสี่ยงภัยของระบบราง โดยเฉพาะหากเกิดภัยธรรมชาติหรือน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ โดยอาจนำร่องในพื้นที่ภูเขาและพื้นที่เสี่ยงก่อน จากแผนที่เสี่ยงภัย (hazard map) เพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธา ในการออกสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยง และแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถเพื่อประสานแจ้งเตือนพนักงานขับรถไฟให้ใช้ความระมัดระวังหรือหยุดเดินรถชั่วคราวจนกว่าจะมั่นใจในความมั่นคงปลอดภัยของทางรถไฟ รวมทั้งพิจารณาการปรับปรุงระบบสื่อสารและโทรคมนาคมในพื้นที่ที่อับสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือวิทยุสื่อสาร เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องและติดต่อประสานงานได้อย่างทันท่วงทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ