นายกฯ ย้ำทุกภาคส่วนบูรณาการแก้ปมยาเสพติด-หนี้นอกระบบ-ภัยแล้ง

ข่าวทั่วไป Sunday May 5, 2024 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฯ ย้ำทุกภาคส่วนบูรณาการแก้ปมยาเสพติด-หนี้นอกระบบ-ภัยแล้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟังรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติด และปัญหาภัยแล้งของจังหวัดมหาสารคามว่า รัฐบาลให้สำคัญและต้องการให้ประชาชนหลุดพ้นจากวงจรหนี้นอกระบบได้อย่างแท้จริง สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรีและมีความสุข รวมถึงขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

สำหรับรายได้ต่อหัวของประชากรในจังหวัดมหาสารคามอยู่อันดับที่ 57 ของประเทศถือว่ายังต่ำอยู่ และพึ่งพาภาคเกษตรค่อนข้างมาก ซึ่งการเกษตรจะดีได้ น้ำถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่ต้องมีการบริหารจัดการให้เพียงพอต่อการทำการเกษตร ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องน้ำ ทั้งรถผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ และรถขนน้ำไปให้บริการประชาชน รวมถึงเร่งการขุดลอกแหล่งน้ำ และซ่อมบำรุงระบบประปาแก่ชุมชน และขอให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กรมการทหารช่าง ใช้รถบรรทุกน้ำของทหารที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำกินน้ำใช้ ดูแลน้ำกินน้ำใช้ให้เพียงพอ

ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาที่หยั่งลึกในสังคมไทย ทำงานเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ ตัวเลขยอดมูลหนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามรายงานให้รับทราบประมาณ 300 กว่าล้านบาท ซึ่งยังถือว่าต่ำอยู่ จำนวนลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่เข้ามาลงทะเบียนในระบบมีประมาณไม่ถึงสามพันคน ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งตำรวจ ข้าราชการ นายอำเภอ ได้ทำงานกันอย่างหนัก นำทุกคนเข้าสู่ระบบให้มีการไกล่เกลี่ยหนี้ให้ได้ แต่ตัวเลขที่แสดงออกมาดังกล่าวก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะตัวเลขหนี้นอกระบบที่มีอยู่ทั้งระบบมีเป็นแสนล้านบาท จึงขอให้กำลังใจทุกหน่วยงาน และขอให้ทำงานหนักขึ้นในการจัดตลาดนัดหนี้ เพื่อสนับสนุนให้ลูกหนี้เข้ามาแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้มากขึ้น

ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ต้องดูแลเรื่องของผู้มีอิทธิพลต่างๆ ที่ข่มขู่ และไม่ยอมเข้าสู่ระบบ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากเราทำงานมาเท่าไรก็ไม่พอใช้ดอกเบี้ยที่ไม่ให้ความเป็นธรรม และดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นหากเราแก้ที่รากฐานของปัญหาหนี้นอกระบบได้ปัญหาต่างๆ ก็จะลดน้อยลงไป

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องยาเสพติดที่รัฐบาลดูแลและให้ความสำคัญ ซึ่งปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาใหญ่ในภาคอีสาน ซึ่งตรงนี้เกิดจากการทำงานมาใช้หนี้ไม่เพียงพอ ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายก็ยังมีความหละหลวมอยู่ โดยวันนี้เลขาธิการ ป.ป.ส. แม่ทัพภาค และผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ก็ได้เดินทางมาด้วย จึงขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหายาเสพติด และให้การดูแลประชาชนให้เหมาะสม ทั้งนี้ได้ย้ำให้ตำรวจ ป.ป.ส. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม จัดทำข้อมูลบัญชีผู้ค้ายาเสพติด แบ่งเป็นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก โดยต้องระบุและกำหนดกรอบระยะเวลาที่จะปราบปราม แต่ต้องไม่เกิน 90 วัน นับจากวันนี้ การปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด ผู้ที่มียาเสพติดไว้ในครอบครองถือว่ามีความผิด ขอให้ดูที่เจตนาว่าเป็นผู้เสพหรือเป็นผู้ขาย หากเป็นผู้ขายต้องจัดการขั้นเด็ดขาด โดยให้รายงานผลมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีทุกเดือน และย้ำเรื่องมาตรการการยึดทรัพย์ การเผาทำลายของกลางต้องทำโดยเร็ว อย่ามีการเคลื่อนย้ายบ่อยครั้งเพราะสังคมจะเกิดข้อสงสัย ตรงนี้ขอให้จัดการเด็ดขาด ส่วนกรณีที่เป็นผู้เสพขอให้ถือว่าเขาเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาบำบัด ดังนั้นขอให้ อปท. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร ทำงานอย่างบูรณาการ เปิดศูนย์บำบัดผู้ป่วยยาเสพติด ในพื้นที่ของส่วนราชการที่ควบคุมได้ เช่น ค่ายทหาร โดยให้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาจัดการเรื่องการบำบัดดูแล ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ปกครอง เข้ามาดูแลเรื่องระเบียบ การจัดการ และความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ยืนยันขอให้เราเคร่งครัดปฏิบัติ และคำนึงถึงประชาชนเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่

นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงกระบวนการยึดทรัพย์ต้องดำเนินการโดยเร็ว สกัดตามชายแดนไม่ให้มียาเสพติดรั่วเข้ามา จัดการจับกุมผู้ค้ายาอย่างเด็ดขาด เรื่องของการที่เอาชุมชนเข้ามาเป็นส่วนแก้ไขในการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นโครงการหัวโทนโมเดล ดึงหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันบูรณาการ ทุก ๆ คนต้องช่วยกัน โดยขอย้ำอีกครั้งว่าถนนนี้ยังอีกไกล เชื่อว่าเรามีแผนงานที่ชัดเจน แม้ว่าปัญหายังอยู่ ราคายาบ้าก็ยังไม่ขึ้น ถึงแม้จับได้มากขึ้นเป็น 3-4 เท่าก็ตาม เราต้องทำงานกันหนักขึ้น และต้องทำงานร่วมมือกันให้มากขึ้น ในส่วนการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ อยากให้จังหวัดช่วยกันรณรงค์ให้ลูกหนี้เข้ามาพูดคุยกันมากกว่านี้

นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ สส.มหาสารคาม ที่ขับเคลื่อนโครงการสะท้อนความต้องการของประชาชน ซึ่งมั่นใจว่าโครงการเหล่านี้เมื่อบรรจุในโครงการแล้วจะช่วยผลักดันอย่างจริงจังให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ