
นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ถึงผลการจับกุมตัว "นายชนินทร์ เย็นสุดใจ" อดีตผู้บริหาร บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) และผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหุ้น STARK
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนต.ค.66 รัฐบาลได้เร่งดำเนินการเพื่อจะนำตัวนายชนินทร์ กลับมาดำเนินคดีให้ได้ จนกระทั่งถึงวันนี้ รวมใช้เวลากว่า 8 เดือน จึงสามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงยุติธรรม, ดีเอสไอ, อัยการสูงสุด, กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคดีนี้ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญต่อตลาดทุนไทย

ทั้งนี้ คดีของ บมจ.สตาร์คฯ ได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยพบเห็นการทุจริตเกิดขึ้นราวกลางปี 66 ซึ่งนายชนินทร์ ได้หลบหนีไปในช่วงเวลานั้น จากนั้นในช่วงเดือนก.ย.66 เป็นช่วงที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เริ่มเข้ามาบริหารประเทศ จึงมีความพยายามจะหยิบยกเรื่องคดีขึ้นมาดำเนินการ โดยมอบหมายให้ตน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ ดำเนินการอย่างเป็นความลับ เพื่อนำตัวนายชนินทร์ กลับมาประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพราะคดีนี้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน เป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อตลาดทุนของไทย
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้เคยเดินทางไปยูเออี 2 รอบ เพื่อติดตามเรื่องนี้ เนื่องจากทราบดีว่ามีความยากลำบากเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญคดีนี้มาก จึงได้เดินทางเป็นการส่วนตัวถึง 2 ครั้ง เพื่อประสานงานกับรัฐบาลยูเออีว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับคดีนี้มาก
"กระบวนการหลังจากนี้ จะนำตัวนายชนินทร์ไปที่ดีเอสไอ การจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจลับ ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานราชการของดูไบ ซึ่งได้ช่วยอำนวยความสะดวก และส่งข้อมูลกลับมาให้ และทางดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปที่ดูไบ เพื่อนำตัวนายชนินทร์ กลับมา" รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับนายชนินทร์ ซึ่งนายชนินทร์ได้ร้องขอเรื่องความยุติธรรมและความปลอดภัย เนื่องจากโดนคุกคามในช่วงที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ
สำหรับการใช้ชีวิตของนายชนินทร์ ในต่างประเทศนั้น ไม่ได้ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ใช้วิธีการถือพาสปอร์ตนักท่องเที่ยว ส่วนจะมีใครให้ความช่วยเหลือขณะหลบหนีอยู่ในต่างประเทศนั้น ตนไม่ทราบ คงจะต้องสอบสวนกันต่อไป
ส่วนหลักฐานทางคดีที่มีจะสามารถดำเนินการเอาผิด และนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายในคดีหุ้น STARK ได้หรือไม่นั้น นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ ทางดีเอสไอจะเป็นผู้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การที่มาแถลงข่าววันนี้เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจกับประชาชน ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกระบวนการหลังจากนี้ว่า จะนำตัวผู้ต้องหาไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิที่ผู้ต้องหาสามารถพบทนายได้ และมีสิทธิได้รับการเข้าเยี่ยมตามกฎหมาย จากนั้นจะพิมพ์ลายนิ้วมือ และควบคุมตัว ก่อนที่จะนำส่งอัยการในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ซึ่งพนักงานสอบสวนมีสิทธิคัดค้านการประกันตัว แต่ทั้งนี้ อำนาจการพิจารณาจะอยู่ที่ศาล
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การนำตัวนายชนินทร์ กลับมามายังประเทศไทย ถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจที่สามารถนำกลับเข้ามาได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นการดำเนินการตามคำสั่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ ช่วงเดือนต.ค.66