นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายวีรชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เจรจากับรัฐบาลจีนให้ผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ แก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้ทันช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ทุกปีมักจะคนจีนเดินทางมาประเทศไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการแก้ไขกฎเกณฑ์ที่บังคับให้นักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาไทยต้องซื้อประกันไว้ก่อน
ก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวจีน ซึ่งรับผิดชอบในการอนุญาตให้บริษัททัวร์จีนนำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปต่างประเทศ ได้ยกเลิกประกาศเตือนเรื่องการเดินทางมาไทยแล้ว จากเดิมที่ไทยมีปัญหาปิดสนามบินสุวรรณภูมิจนการท่องเที่ยวจีนประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวจีนเลื่อนการเดินทางมาไทยและไม่อนุญาตให้บริษัททัวร์จีนนำลูกทัวร์มาไทยในช่วงที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่รัฐบาลเน้นให้ความสำคัญกับการดึงนักท่องเที่ยวจากจีนนั้น เป็นไปตามมาตรการที่ไทยพยายามหันมาพึ่งพาตลาดการท่องเที่ยวในแถบเอเชียมากขึ้น หลังจากสหรัฐและประเทศในแถบยุโรปประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก ซึ่งมีส่วนทำให้ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวลง
พร้อมมองว่า การที่รัฐบาลพยายามใช้มาตรการเพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยให้มากขึ้นนั้น จะเป็นการแก้ปัญหาและช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้อย่างตรงจุดมากกว่าการนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่างบช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวเพียงพันล้านบาทอาจจะไม่เพียงพอนั้น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า จะเพียงพอต่อการบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการที่ขอรับการสนับสนุนด้านสินเชื่อ และอัตราดอกเบี้ย เพราะวัตถุประสงค์หลักของรัฐบาลคือมุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวด้วยการสร้างแรงจูงใจต่างๆ ให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า
ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวนั้น ภาครัฐจะนำร่องด้วยการให้แรงจูงใจกับหน่วยงานราชการต่างๆ จัดสัมมนาในต่างจังหวัดเพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง นอกจากนี้ จะให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี, รมว.คลัง และ รมว.ท่องเที่ยว หามาตรการอื่นๆ สนับสนุนด้วย เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศ 6 เดือน, ค่าธรรมเนียมขึ้นลงของอากาศยาน(Landing Fee) เป็นต้น ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและไม่จำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณสนับสนุน
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า แม้ปัญหาการเมืองในประเทศช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างมาก แต่ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นแล้ว หลังจากที่ช่วงครึ่งหลังของเดือนธ.ค.51 อัตราการเข้าพักในโรงแรมเริ่มปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนธ.ค.51
สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้เตรียมตัวเดินทางไปหลายประเทศเพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจกับนานาประเทศให้เกิดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ภายในประเทศไทย หลังจากที่รัฐบาลได้จัดการปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มเดินทางไปยังประเทศต่างๆ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาข้อตกลงต่างๆ ของอาเซียน รวมถึงการพิจารณางบประมาณกลางปี 52 แล้ว โดยช่วงปลายเดือนนี้จะเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนต้นเดือนก.พ.จะเดินทางไปประเทศจีน และญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศให้ต่างชาติได้เข้าใจว่าทิศทางการเมืองไทยได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว