ผลการสำรวจของสถาบันวิจัยเยาวชนญี่ปุ่นเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเรียนมัธยมของญี่ปุ่นพบว่า นักเรียนเหล่านี้มีความต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศน้อยกว่านักเรียนมัธยมในสหรัฐ จีน และเกาหลีใต้ โดยนักเรียนมัธยมต้นของญี่ปุ่น 37% และนักเรียนมัธยมปลาย 541% ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศ ขณะที่นักเรียนมัธยมต้นและปลายในสหรัฐต้องการไปเรียนในต่างประเทศ 49% และ 56% ตามลำดับ ขณะที่นักเรียนมัธยมต้นและปลายในจีนต้องการไปเรียนในต่างประเทศถึง 84% และ 61% ส่วนนักเรียนกมัธยมต้นและปลายในเกาหลีใต้ต้องการเรียนต่อต่างประเทศ 47% และ 64%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผลการสำรวจดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเดือนก.ย.-ต.ค. 2551 ครอบคลุมนักเรียนจำนวน 8,300 คนในโรงเรียน 142 แห่ง ใน 4 ประเทศดังกล่าว
นักเรียนมัธยมในจีนและเกาหลีใต้ 40-60% ตอบคำถามถึงสาเหตุที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศว่า สภาพแวดล้อมด้านการศึกษาที่ดีกว่าเป็นเหตุผลที่นักเรียนเหล่านี้คาดหวังว่าจะได้พบที่โรงเรียนในต่างประเทศ แต่ในกลุ่มนักเรียนญี่ปุ่น กลับมีนักเรียนมัธยมต้น 17% และนักเรียนมัธยมปลาย 8% เท่านั้นที่ให้เหตุผลข้อเดียวกันนี้ ซึ่งสัดส่วนตัวเลขดังกล่าวอาจจะชี้ให้เห็นว่า โดยพื้นฐานแล้วนักเรียนญี่ปุ่นพอใจกับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนญี่ปุ่น
สำหรับเหตุผลอื่นๆที่นักเรียนในจีนและเกาหลีใต้เลือกมาคือ มาตรฐานการใช้ชีวิตที่สูงขึ้นกว่าเดิมในต่างประเทศและความหวังที่จะหลีกเลี่ยงสภาพการแข่งขันของโรงเรียนภายในประเทศ ซึ่งเหตุผลดังกล่าวมีนักเรียนจีนและเกาหลีใต้เลือกไปประมาณ 30-40% ส่วนเหตุผลนี้ในญี่ปุ่นและสหรัฐถูกเลือกไปแค่ประมาณ 10%
นักเรียนในญี่ปุ่นกว่า 50% ที่ตอบคำถามระบุถึงเรื่องโอกาสในการได้อยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมต่างชาติ และการปรับปรุงทักษะภาษาต่างชาติเป็นสาเหตุที่นักเรียนเหล่านี้ตัดสินใจเลือก
เมื่อปี 2548 มีนักศึกษาประมาณ 80,000 คนในญี่ปุ่นซึ่งมีทั้งที่จบปริญญาตรีและปวส.ศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงไปประมาณ 3,000 คน จากระดับปีที่แล้ว และคาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะลดน้อยลงไปอีก เนื่องจากอัตราการเกิดในประเทศที่ลดลง