(เพิ่มเติม) โฆษก ทบ.เผยกองทัพส่งรถหุ้มเกราะควบคุมสถานการณ์หลายจุดในกทม.แล้ว

ข่าวทั่วไป Sunday April 12, 2009 16:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี โดยระบุว่า กองทัพพร้อมที่จะปฏิบัติการทันทีโดยใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น โดยขณะนี้ได้ส่งรถหุ้มเกราะออกไปรักษาสถานการณ์ภายในกรุงเทพและปริมณฑลราว 50 จุด โดยเน้นสถานที่ราชการ พื้นที่สาธารณะ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟฟ้า จุดทางแยกต่าง ๆ

พ.อ.สรรเสริญได้ย้ำว่ากองทัพมีความจำเป็นต้องเคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์และพาหนะจำพวกรถสายพานหุ้มเกราะเพื่อใช้ในการปฏิบัติการ โดยการปฏิบัติการทหารจะทำหน้าที่ร่วมกันกับตำรวจ ซึ่งไม่ใช่เพื่อทำการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เป็นการรักษาสถานการณ์ภายใต้การมอบหมายของรัฐบาลเท่านั้น

“ทางตำรวจ ทหารคงจะปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับในช่วงที่ผ่านมา เพียงแต่ว่ามาตรการทั้งหลายที่ปฏิบัติจะมีความเข้มข้นและกระชับมากขึ้น เพราะฉะนั้นตามจุดสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่สาธารณะที่เราคิดว่าควบคุมไว้ก่อน จะทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม และป้องกันไม่ให้คนมาสร้างสถานการณ์" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

พ.อ.สรรเสริญได้ย้ำว่ากองทัพมีความจำเป็นต้องเคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์และพาหนะ จำพวกรถสายพานหุ้มเกราะเพื่อใช้ในการปฏิบัติการออกมาด้วย โดยการปฏิบัติการทหารจะทำหน้าที่ร่วมกันกับตำรวจ

“ทางตำรวจ ทหารคงจะปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับในช่วงที่ผ่านมา เพียงแต่ว่ามาตรการทั้งหลายที่ปฏิบัติจะมีความเข้มข้นและกระชับมากขึ้น เพราะฉะนั้นตามจุดสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่สาธารณะที่เราคิดว่าควบคุมไว้ก่อน จะทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม และป้องกันไม่ให้คนมาสร้างสถานการณ์" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

พร้อมกันนั้นได้กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารได้ใช้ความอดทน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะและใช้ความรุนแรงมาตลอด แต่คิดว่าถึงเวลาจำเป็นแล้วที่จะต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น แต่ก็ยินดีหากสามารถหลีกเลี่ยงการปะทะได้

“ขออนุญาตเรียนกับพี่น้องประชาชนว่าในพื้นที่กรุงเทพ ปริมณฑล ขณะนี้หลังจากที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว จะเห็นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจออกปฏิบัติการในหลายพื้นที่ ซึ่งก็มีทั้งยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ทั้งหลาย ก็ขออย่าให้ตกอกตกใจ มิใช่การปฏิรูปหรือการปฏิวัติ แต่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอะไรขึ้น แต่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและก็มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ