พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า ขณะนี้ กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิก (กอฉ.) สามารถคลี่คลายการชุมนุมและสลายการชุมนุมได้ในระดับหนึ่งแล้ว คงเหลือการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพียงแห่งเดียว คือ ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งมีผู้ชุมนุม 400-500 คน
"โดยการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ที่กล่าวอ้างว่า ในการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ทหารใน 2 วันที่ผ่านมากับผู้ชุมนุมนั้น เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มผู้ชุมนุมเสียชีวิต โดยมีการนำภาพ 2 ภาพมาแจกจ่ายในที่ชุมนุม และยังเผยแพร่ภาพเหล่านี้ทางอินเตอร์เน็ต มีการฟอร์เวิร์ดเมล์ ส่งต่อกันไปในกลุ่มผู้ที่รู้จัก จุดประสงค์เพื่อปลุกระดมให้มีผู้มาร่วมชุมนุมมากขึ้น"พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ภาพแรกเป็นภาพการใช้กระสุนซ้อมรบในการเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งการใช้กระสุนอาวุธในการสลายการชุมนุม มีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ การใช้กระสุนจริงในการยิงขึ้นฟ้าเพื่อใช้ข่มขวัญกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะเดียวกัน ถ้าหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีอากัปกริยาที่จะเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก็จะใช้กระสุนซ้อมรบซึ่งไม่มีหัวกระสุน เล็งใส่เข้าผู้ชุมนุมเพื่อเป็นการข่มขวัญ ซึ่งกระสุนซ้อมรบจะมีแต่เสียงอย่างเดียวเท่านั้น
ในการดำเนินการสลายการชุมนุมครั้งนี้ ทางการก็ไม่ได้ปิดกั้นในการทำข่าวของสื่อมวลชน ฉะนั้น สื่อมวลชนที่อยู่ในที่เกิดเหตุจะเป็นพยานได้เป็นอย่างดี ว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากการปฏิบัติภาระกิจในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยเรื่องนี้ ได้มีการนำภาพคุณไสว ทองอ้น ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ชุมนุม ที่เสียชีวิตจากกระสุนเอ็ม 16 จึงได้เชิญนายแพทย์ 2 ท่านมาชี้แจง
ด้านพ.อ.นพ. กฤษฎี ทกานนท์ ผู้เชี่ยวชาญบาดแผลกระสุน จากรพ.พระมงกุฎเกล้าฯและ นพ.ธีระชัย อุกฤษมโนรถ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคนไข้ชื่อนายไสว ทองอ้น กล่าวว่า คนไข้ได้เข้ารับการรักษาที่รพ.ราชวิถี โดยในวันที่เกิดเหตผู้ป่วยมีบาดแผลเป็นรูบริเวณรักแร้ด้านซ้าย และมีเลือดออกมาก และตอนที่มาถึงรพ. วัดสัญญาณชีพไม่ได้ คล้ำชีพจรไม่ได้ ผู้ป่วยได้รับการปั๊มหัวใจที่ห้องฉุกเฉิก และได้รับการให้เลือด จากนั้นก็ได้รับการผ่าตัดด่วน และพบว่า ลักษณะฉีกขาด บนบาดแผลที่เป็นรู และถูกเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดง และเส้นประสาทบางส่วน
โดยการผ่าตัดได้นำเส้นเลือดเทียมมาต่อเพื่อช่วยชีวิต หลังผ่าตัดผู้ป่วยก็มีสัญญาณชีพเป็นปกติ และได้รับการรักษาในห้องไอซียู และวันนี้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดอีกรอบหนึ่ง โดยการนำเส้นเลือกของผู้ป่วยจริงมาต่อทดแทนเส้นเลือดเทียม โดยผู้ป่วยมีการรับรู้ สติสัมปชัญญะดี พร้อมทั้งได้โชว์ภาพบาดแผล และลักษณะของรูกระสุนไม่ใช่เกิดจากปืนเอ็ม 16
พ.อ.สรรเสริฐ กล่าวว่า จากข้อมูลแพทย์ผู้เชียวขาญ เป็นเครื่องยืนยันได้ดี ว่าคุณไสว ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเสียชีวิต ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ และบาดแผลที่ได้รับไม่ได้เกิดจากปืนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธของเจ้าหน้าที่ทหาร ในการปฏิบัติภาระกิจสลายการชุมนุมครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ราย คือ คุณศุภกิจ คนโทฉิมพลี อายุ 45 ปี ถูกยิงที่ขาขวา แพทย์ผู้รับผิดชอบบอกว่า บาดแผลน่าจะเกิดจากปืนลูกซอง อีกรายคือ คุณสนอง ทานทอง อายุ 34 ปี ถูกยิงที่เข่าขวา กระดูกสะบ้าแตก ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้ บอกว่าได้ผ่ากระสุนของปืน 9 มม. ออกมแล้ว ทั้งสองกรณีนี้ เป็นบาดแผนกระสุนที่ไม่ได้ใช้ในหน่วยกำลังรบของกองทัพ ในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมมีการใช้อาวุธปืนมายังเจ้าหน้าที่
"กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิก ขอเรียนให้ทราบว่าการปฏิบัติภารกิจสลายการชุมนุม เจ้าหน้าที่กระทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่า การได้รับข้อมูลข่าวสารนั้นต้องใช้วิจารณญานในการรับชม อย่าหลงเชื่อ หวั่นไหว และ หลงกลต่อการสร้างเรื่องราวต่างๆของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และขอความกรุณาอย่าได้ออกมาร่วมชุมนุมตามคำเชิญชวน เพื่อสร้างความสงบให้กลับคืนมาโดยเร็ว" โฆษกกองทัพบก กล่าวในท้ายที่สุด