ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.) สรุปสถิติอุบัติเหตุสะสม 6 วัน(10-15 เม.ย.52) มียอดผู้เสียชีวิต 321 ราย น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนแค่ 3 ราย โดยจังหวัดเชียงใหม่มียอดผู้เสียชีวิตสูงสุด 13 ราย ขณะที่มี 8 จังหวัดที่ไม่มียอดผู้เสียชีวิตเลย ส่วนสาเหตุใหญ่มาจากเมาแล้วขับ
"สถิติอุบัติเหตุในช่วงหกวันที่ผ่านมา พบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับ โดยรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางสูงสุด กลุ่มเยาวชนช่วงอายุตั้งแต่ ๒๐ ปีลงมาเป็นกลุ่มที่ประสบอุบัติเหตุสูงสุด และพฤติกรรมเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การไม่สวมหมวกนิรภัย การเมาเล้วขับ และการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด" นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศปถ.กล่าวในการแถลงข่าว
เลขานุการ ศปถ.กล่าวว่า ในช่วง 6 วันที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุสะสมรวม 3,634 ครั้ง ลดลง 321 ครั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผู้เสียชีวิตรวม 321 ราย น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนแค่ 3 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,961 ราย น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 523 ราย
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 137 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 13 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วงดังกล่าวจำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ ตราด ฉะเชิงเทรา ยโสธร อำนาจเจริญ สกลนคร น่าน ปัตตานี และยะลา
สำหรับวันที่ 15 เม.ย.เกิดอุบัติเหตุรวม 528 ครั้ง มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 110 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิต 49 ราย และผู้บาดเจ็บ 586 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา 39.58% รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด 20.83% ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 80.97% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง 65.34% และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงกลางคืน 58.71% โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงานอายุ 20-49 ปี
เลขานุการ ศปถ.กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 16-17 เม.ย. 52 เป็นวันหยุดราชการ ทำให้ประชาชนบางส่วนเลื่อนการเดินทางกลับและยังคงท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ศปถ.จึงได้กำชับให้จังหวัดดำเนินการตามข้อสั่งการที่ผ่านมาอย่างเข้มข้น