นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวผลการหารือกับนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาว่า นางคลินตันตกลงจะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียนแปซิฟิก หรือ ARF นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความมั่นคงของกองทัพ และการพัฒนาศักยภาพบุคคลด้านสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้สรุปในฐานะรัฐบาล ภายใต้การนำของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะสร้างความปรองดอง และแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางมาตรา เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองภายในให้สำเร็จ
สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศนั้น สหรัฐอเมริกาไม่ได้สอบถาม หรือให้ความสนใจมากนัก เนื่องจากเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำเทศไทย ให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่องและครบถ้วนแล้ว อีกทั้งเรื่องดังกล่าว นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการะทรวงได้ติดตามประสานงานอยู่แล้ว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ยังแสดงความห่วงใยการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา โดยนายกษิต ยืนยันว่า จะแก้ไขปัญหาสันติวิธีและรักษาระดับความสัมพันธ์ และพร้อมสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเช่นเดิม ส่วนที่ชาวกัมพูชาในพื้นที่แนวชายแดนเรียกร้องค่าเสียหายจากทางการไทย หลังได้รับผลกระทบกับการปะทะกันครั้งล่าสุด ระหว่างทหารไทยและกัมพูชา นายกษิต กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ถือเป็นผู้ที่รับทราบปัญหาดังกล่าวนี้เป็นอย่างดี
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ชี้แจงการประกอบอุตสาหกรรมอัญมณีของไทย ไม่ได้ซื้อจากรัฐบาลทหารพม่า แต่ซื้อมาจากผู้ประกอบการรายย่อย จึงขอให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเข้าใจ พร้อมชี้แนะถึงแนวทางการปรับระดับความสัมพันธ์ของสหรัฐกับพม่าว่า ควรให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ประสบภัยนาร์กีส และสนับสนุนบุคลากรในการจัดการเลือกตั้งในพม่า
นอกจากนี้ สหรัฐอเมริการจะเป็น 1 ในประเทศที่จะตอบรับชาวม้งลาว จำนวน 150 คน เข้าลี้ภัยทางการเมือง ส่วนอีก 5,000 คน ที่อยู่ จ.เพชรบูรณ์ จะเร่งส่งกลับประเทศลาวภายในสิ้นปีนี้ อย่างปลอดภัยและมีความเป็นอยู่ที่ดี