นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสถิติแห่งชาติ(สสช.) เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ.52 มียอดผู้ว่างงาน 7.1 แสนคน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 1.5 แสนคน แยกเป็นชาย 4.4 แสนคน และหญิง 2.7 แสนคน คิดเป็นอัตราว่างงาน 1.9% เพิ่มขึ้น 0.4% แต่ลดลง 1.7 แสนคนจากเดือน ม.ค.52
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ว่างงานมากที่สุดถึง 2.8 แสนคน รองลงมาเป็นภาคกลาง 1.7 แสนคน ภาคเหนือ 1.3 แสนคน ภาคใต้ 70,000 คน และ กทม. 60,000 คน เมื่อเทียบกับปี 51 พบว่าจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นในทุกภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคที่มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 70,000 คน รองลงมาเป็นภาคกลางเพิ่มขึ้น 40,0000 คน ส่วนภาคใต้และภาคเหนือมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 10,000 คน ขณะที่ กทม.มีผู้ว่างงานเท่าเดิมคือ 60,000 คน
สำหรับผู้ว่างงานทั้ง 7.1 แสนคน พบว่าเป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนหรือผู้ว่างงานที่เข้ามาใหม่ 1.6 แสนคน ที่เหลืออีก 5.5 แสนคนเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน โดยเป็นผู้ว่างงานจากภาคการผลิตมากที่สุด 2.8 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1 แสนคน ภาคบริการและการค้า 1.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 60,000 คน และภาคเกษตรกรรม 90,000 คน ลดลง 40,000 คน
ส่วนผู้มีงานทำในเดือน ก.พ.นี้พบว่ามีผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานรวม 37.58 ล้านคน แยกเป็นผู้มีงานทำ 36.67 ล้านคน ผู้ว่างงาน 7.1 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 2 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานมี 14.99 ล้านคน จากจำนวนของผู้มีงานทำ 36.67 ล้านคน เมื่อเทียบกับปีก่อนพบว่าผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 9 แสนคน(จาก 35.77 ล้านคน เป็น 36.67 ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้น 2.5%
โดยผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 10,000 คน(จาก 12.35 ล้านคน เป็น 12.36 ล้านคน) และผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น 8.9 แสนคน(จาก 23.42 ล้านคน เป็น24.31 ล้านคน)
นางธนนุช กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของผู้มีงานทำเพิ่มขึ้นในสาขาการขายส่งและขายปลีกฯ มากที่สุด 4.4 แสนคน รองลงมาสาขาการโรงแรมและภัตตาคาร 2.3 แสนคน สาขาการก่อสร้างและสาขาการขนส่งฯ เพิ่มขึ้นเท่ากัน 1.6 แสนคน ส่วนสาขาที่ลดลงเป็นสาขาการผลิตลดลง 1.3 แสนคน และสาขาบริหารราชการแผ่นดินลดลง 10,000 คน ที่เหลือเพิ่มขึ้นและลดลงเล็กน้อยกระจายอยู่ในสาขาอื่น
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีผู้ทำงานลดลงต่อเนื่อง คือการผลิตสิ่งทอลดลง 1.2 แสนคน, ผลิตไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ 1.1 แสนคน, ผลิตยานยนต์ 90,000 คน, ผลิตโลหะขั้นมูลฐาน 50,000 คน, ผลิตกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และการผลิตเครื่องอุปกรณ์การขนส่ง ลดลงเท่ากัน 40,000 คน
ส่วนที่เพิ่มขึ้นคือ การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม 1.1 แสนคน, ผลิตเครื่องจักรและเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า 70,000 คน และผลิตผลิตภัณฑ์จากแร่อโลหะ 40,000 คน