(เพิ่มเติม) H1N1 FLU: สธ.เผยผู้เสียชีวิตจากหวัด 2009 เพิ่มอีก 5 ยอดสะสม 165 ราย

ข่าวทั่วไป Wednesday September 30, 2009 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงสาธารณสุข เผยยอดผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่เสียชีวิตในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 13-26 ก.ย.52 มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ใน 4 จังหวัด คือ สกลนคร 2 ราย มหาสารคาม, สุรินทร์ และอุดรธานีจังหวัดละ 1 ราย รวมเป็น 165 ราย

ขณะที่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันที่เริ่มป่วยในช่วง 14 วัน จำนวน 297 ราย โดยจังหวัดที่มีการรายงานของผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ชนิด A (H1N1) มากกว่าหรือเท่ากับ 50% ของอำเภอในจังหวัด ได้แก่ จ.พะเยา

พร้อมกันนี้ ได้ระบุว่า มีรายงานการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A (H1N1) ในโรงเรียนแห่ง หนึ่งในกรุงเทพมหานคร ผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียนจำนวน 6 ราย ศึกษาในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 มีอาการไข้หวัด ไอ มีน้ำมูก เสมหะ เจ็บคอ ไม่มีใครป่วยรุนแรง ไม่มีหอบเหนื่อย อยู่ระหว่างการติดตามควบคุมโรค

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า แม้สถานการณ์การระบาดดูเหมือนจะเริ่มลดลง แต่ประชาชนไม่ควรวางใจและละเลยมาตรการป้องกันตัว เพราะช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง หลายพื้นที่มีฝนตกชุก ทำให้มีความชื้นในอากาศสูง เชื้อไวรัสอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น ประชาชนจึงมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคได้มากขึ้น

ดังนั้นจึงเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดคงมาตรการ 2 ลด 3 เร่ง และประชาสัมพันธ์ความรู้ มาตรการป้องกันตัวอย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนตระหนักและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนในอำเภอรอบๆ ซึ่งช่วงปิดเทอมอาจมีการออกไปเที่ยวตามศูนย์การค้า, โรงภาพยนตร์, สวนสนุก, ร้านอาหารในตัวจังหวัด ขอให้ผู้ปกครองเอาใจใส่ให้เด็กดูแลป้องกันตัวเป็นพิเศษด้วย ซึ่งนอกจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้วในบางพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง ต้องระมัดระวังโรคติดต่อที่พบได้บ่อย ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและโรคตาแดง

โดยสำนักระบาดวิทยา รายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-29 ก.ย.52 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 60,469 ราย และตาแดง 77,973 ราย การแพร่กระจายของเชื้อโรคดังกล่าวมี 2 ทาง คือจากการสัมผัสโดยตรง เช่น การคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือไอจามรดกัน ส่วนการติดเชื้ออีกทางคือ การติดเชื้อมากับมือที่ไปสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน แล้วมาสัมผัสกับจมูก ตา หรือนำเข้าปาก ซึ่งการล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ