สธ.เล็งออกกฎหมายเพิ่มพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100% ในปั๊มน้ำมันและสถานีขนส่ง

ข่าวทั่วไป Friday October 2, 2009 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมช.สาธารณสุข เผยเตรียมออกกฎหมายเพิ่มพื้นที่ปลอดบุหรี่ 100% ครอบคลุมปั๊มน้ำมันและสถานีขนส่งทุกประเภท เพื่อคุ้มครองสุขภาพคนไม่สูบบุหรี่จากพิษควันบุหรี่มือสอง และบังคับใช้ 10 ภาพคำเตือนภัยบุหรี่ให้ผู้ผลิตหรือนำเข้าบุหรี่พิมพ์บนซองในวันที่ 29 มี.ค.53

"กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะปรับปรุงกฎหมายให้มีผลกว้างขวางยิ่งขึ้น ได้แก่ การเพิ่มสถานที่ที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ให้มากขึ้น เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน สถานีขนส่งทุกประเภท และผลักดันนโยบายการห้ามอุตสาหกรรมยาสูบแทรกแซงนโยบายการควบคุมยาสูบของรัฐบาล และการควบคุมการค้ายาสูบหนีภาษี เพื่อให้เป็นไปตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (FCTC) รวมทั้งผลักดันแผนควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติปี 53-56 เข้าสู่คณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ เพื่อขยายผลให้หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป" นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าว

ส่วนการบังคับใช้ภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ใหม่จำนวน 10 ภาพ และข้อความคำเตือน ได้แก่ สูบแล้วถุงลมพองตาย ควันบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็ง 10 ชนิด สูบแล้วเป็นมะเร็งปอดตาย ควันบุหรี่ฆ่าคนใกล้ชิด สูบแล้วเส้นเลือดสมองตีบตาย เป็นต้น และทุกภาพคำเตือนมีการแสดงข้อความ "เลิกบุหรี่ โทร.1600" เพื่อให้คำแนะนำแก่นักสูบที่อยากเลิกสูบบุหรี่ด้วย และเพิ่มพื้นที่แสดงฉลากภาพคำเตือนจากร้อยละ 50 เป็น 55 ซึ่ง รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามเมื่อวันที่ 24 ส.ค.52 และประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย.52 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน คือ วันที่ 29 มี.ค.53 ซึ่งจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ บริษัทผู้ผลิตและนำเข้าบุหรี่ เพื่อเตรียมพร้อมการปฏิบัติตามกฎหมายแต่เนิ่นๆ

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการประเมินผลการควบคุมการบริโภคยาสูบของไทยในปี 50 พบว่า มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายอายุ 19 ปีขึ้นไปยังสูงกว่าร้อยละ 40 ส่วนจำนวนผู้เลิกสูบบุหรี่แม้จะสูงถึงร้อยละ 18 แต่ก็มีนักสูบหน้าใหม่ทดแทนที่เป็นวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น ที่น่าตกใจ คือ ร้อยละ 69 ของผู้สูบบุหรี่เยาวชนหญิง อายุ 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี จึงต้องปรับมาตรการให้เข้มข้นเพื่อลดนักสูบหน้าใหม่ รวมทั้งคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่จากพิษควันบุหรี่มือสอง

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ในปีนี้ได้จัดทำโครงการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่(Towards 100 % smoke-free environment) ตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ ซึ่งได้พัฒนาเครือข่ายสนับสนุนและบังคับใช้กฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบนำร่อง 20 จังหวัดใน 4 ภาค ได้แก่ ปทุมธานี ชัยนาท อ่างทอง นครปฐม นครนายก นครราชสีมา ชัยภูมิ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี นครพนม พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย เชียงใหม่ น่าน ชุมพร นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง และกรุงเทพฯ พร้อมทั้งเร่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคยาสูบ รวมทั้งให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในการสอดส่องการกระทำความผิดการสูบบุหรี่ในสถานที่ห้ามสูบ และการจำหน่ายบุหรี่แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ร่วมไปด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ