"กษิต"เล็งเสนออาเซียนซัมมิทตั้งองค์กรกลางตัดสินข้อพิพาทประเทศในภูมิภาค

ข่าวทั่วไป Thursday October 8, 2009 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.ต่างประเทศ เผยเตรียมเสนอที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งองค์กรกลางตัดสินข้อพิพาทระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน เชื่อว่าจะเป็นทางออกให้กับการเจรจาเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมยืนยันรัฐบาลจะยึดหลักการเจรจาโดยสันติ ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

"จะขออนุมัติจากที่ประชุมสุดยอดอาเซียนระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคมนี้ เพื่อจัดตั้งองค์กรกลางตัดสินข้อพิพาทระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะทำให้ประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามีการเจรจาเพื่อหาทางออกได้"นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องปัญหาอธิปไตยดินแดนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจัดโดยสมัชชาประชาชนร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)

รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชาไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร หรือพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศมีกรอบการเจรจาโดยยึดหลักสันติ และไม่ต้องการใช้ความรุนแรงหรือทางการทหารเข้าไปแก้ไขปัญหา และขอยืนยันว่าไทยยังไม่เสียดินแดนในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร

"ที่ผ่านมาระดับผู้นำของทั้งสองประเทศตกลงกันแล้วว่าจะใช้สันติวิธี ฉะนั้นกลุ่มบุคคลที่ต้องการให้เกิดการทวงคืนด้วยวิธีรุนแรง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถ้าจะใช้ทหารใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็รู้ผลแล้วว่าเป็นดินแดนของใคร แต่ผลเสียที่จะตามมาจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ" นายกษิต กล่าว

รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยต้องวางตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่ควรทะเลาะโดยไม่มีเหตุผล ข่าวที่ออกมาบางครั้งเป็นเรื่องการปล่อยข่าวหรือเป็นเพียงข่าวลือเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองภายใน อย่างกรณีที่สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา บอกว่า ถ้าใครรุกล้ำเข้าไปก็จะยิงเป็นเรื่องการเมืองภายในของเขา

"ผมพบสมเด็จฮุนเซ็นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พูดคุยกันดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และผมได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย" นายกษิต กล่าว

รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาของรัฐบาลไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีเรื่องของความลับใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ ดังนั้นขอให้วางใจรัฐบาลที่ตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหานี้

"ขอร้องว่าอย่าจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ถ้าบอกว่าให้รบกันเลยก็ขอให้ไปบอกกับรัฐมนตรีต่างประเทศคนอื่นที่ไม่ใช่ผม" นายกษิต กล่าว

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะหยิบยกปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลนั้น นายกษิต กล่าวว่า ยังไม่เห็นเหตุผลอะไรที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะทำเช่นนั้น บอกว่าจะเล่นการเมืองในระบบ ตกลงพรรคการเมืองใหม่กับกลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มเดียวกันหรือไม่ ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และไม่จำเป็นต้องไปเจรจา เพราะพูดกันมาหลายครั้งแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ