H1N1 FLU:สธ.เผยไม่มีผู้เสียชีวิตจากหวัด 09 เพิ่มต่อเนื่องกัน 2 สัปดาห์

ข่าวทั่วไป Wednesday February 3, 2010 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(25-31 ม.ค.53) ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง ส่งผลให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 198 รายเท่าเดิม

"จากการติดตามสถานการณ์โรคในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมผู้เสียชีวิต 198 รายเท่าเดิม ยังพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มๆ ประมาณ 20-30 ราย สามารถวินิจฉัยและควบคุมจำกัดวงการแพร่ระบาดโรคได้" นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ.กล่าว

ส่วนกรณีข้าราชการ กทม.มีผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 1 ราย แสดงให้เห็นว่าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในระลอกที่ 2 เป็นความจริงตามที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยเกิดการระบาดเป็นจุดๆ ในกรุงเทพ โรงพยาบาล และต่างจังหวัด

สำหรับผลการตรวจสอบกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหาหลังฉีดวัคซีนได้ผลสรุปว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ดังนั้น สธ.จะเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกลุ่มเสี่ยงต่อไป โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์จะให้ข้อมูล คำปรึกษาแนะนำเพิ่มเติม และติดตามเฝ้าระวังเรื่องผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งเพิ่มการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้กลุ่มเสี่ยงมารับการฉีดวัคซีนให้มากขึ้นต่อไป

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่ศาลาว่าการ กทม.เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และในวันพรุ่งนี้(4 ก.พ.) จะเรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อย้ำถึงมาตรการรณรงค์การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยสมัครใจ และมาตรการปฏิบัติ 6 ข้อที่ต้องนำมาใช้ในการบริการฉีดวัคซีน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้รับบริการเป็นหลัก ได้แก่ 1.โรงพยาบาลต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยหากเกิดอาการผิดปกติ 2.ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่จะรับการฉีดวัคซีนถึงผลข้างเคียงและรายละเอียดอื่นๆ ให้ครบถ้วนก่อนจะให้บริการ 3.จะต้องตรวจสุขภาพของผู้มารับบริการก่อนว่าควรได้รับการฉีดวัคซีนในขณะนั้นหรือไม่ 4.หลังจากฉีดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ผู้รับการฉีดจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด 5.มีระบบการติดตามอาการหลังฉีดหลังจากนั้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง และ 6.สำหรับสตรีตั้งครรภ์ ซึ่งอยู่ใน 5 กลุ่มเสี่ยงที่จะรับการฉีดวัคซีน ต้องมีสูติแพทย์หรือพยาบาลที่รับฝากครรภ์ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในระดับสูงสุดก่อนฉีดวัคซีนให้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ