MRC Summit เห็นพ้องบูรณาการลุ่มน้ำแบบยั่งยืน, เวียดนามเจ้าภาพครั้งหน้า

ข่าวทั่วไป Monday April 5, 2010 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขง (MRC Summit ครั้งที่1) ว่า จากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและปัญหาด้านภัยแล้ง หลายฝ่ายจึงมีความเห็นร่วมกันว่า ทุกภาคส่วนควรเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน สำหรับสิ่งที่ต้องการเน้นเป็นกรณีพิเศษก็คือประเทศคู่เจรจา ควรมีส่วนในการบริหารจัดการที่สัมพันธ์กัน ขณะเดียวกันการประชุมครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีต่อการพัฒนาลุ่มน้ำโขงในอนาคตเพราะโดยเฉพาะการที่มีตัวแทนระดับรัฐมนตรีจากประเทศจีนเข้าร่วมเป็นครั้งแรก

"ขณะนี้ทางการจีนก็ได้เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำฝนในยูนาน อัตราการไหลและปริมาณน้ำ ณ สถานีจิงหงและม่านอัน ซึ่งเราคาดหวังว่าจะได้รับข้อมูลจากจีนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยืนยันพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เช่น ประเทศญี่ปุ่น อเมริกา และออสเตรเลีย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการยกระดับความร่วมมือนำไปสู่เป้าหมายที่ดี โดยการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจะต้องมีความสมดุลกับสภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ"นายกฯ กล่าว

สำหรับปัญหาที่ท้าทายในการพัฒนาของประเทศสมาชิกทั้ง 4 ได้แก่ ประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม คือการพัฒนาทุกระบบไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงานไฟฟ้า การประมง ต้องมีความสมดุล ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ หรืออยู่ในระดับบริหารจัดการได้ แม้ว่าการจัดการปัญหาเรื่องน้ำจะมีความจำเป็นก็ตาม ก็ต้องคำนึงถึงสิ่งที่กล่าวมา

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงแถลงการณ์หัวหินโดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เพิ่มเติมว่า มีผลออกมาเป็นรูปธรรมในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ โดยแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของลุ่มน้ำโขง และพันธกิจที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้นประสบความสำเร็จ โดยได้ระบุลำดับความสำคัญที่ต้องทำ ประกอบไปด้วยหัวข้อหลักๆ 4 ประการ คือ 1.การพัฒนาลุ่มน้ำ โดยใช้พื้นฐานการจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ 2 แบ่งปันข้อมูลความรู้ 3. การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลียนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ4.การขยายความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือต่อไปทั้งภายในและนอกภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

ทั้งนี้ สิ่งที่กล่าวถึงจะประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี ต้องมีการจัดทำแผนงานกลยุทธ์ สำหรับ 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2554-2558) และ MRC ก็คาดหวังว่าภายใน 20 ปีข้างหน้า จะเป็นองค์กรการจัดการลุ่มน้ำระหว่างประเทศที่มีความมั่นคงด้านงบประมาณ ซึ่งสนับสนุนโดยประเทศภาคีสมาชิก โดยจะจัดให้มีการประชุมทุกๆ 4 ปี ในประเทศภาคีสมาชิก สลับกันเป็นเจ้าภาพเรียงลำดับตามตัวอักษร ทั้งนี้ ประเทศเวียดนามได้ตอบตกลงที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งต่อไปในปีพ.ศ.2558


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ