นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์พิเศษ ต้องการจะใช้แนวทางโน้มน้าวผู้ชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ออกจากการชุมนุมเพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชน รัฐบาลไม่ต้องการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม และขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันจับ 7 แกนนำที่บุกเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งศาลได้ออกหมายจับแล้ว หลังจากที่ได้มีการสกัดกั้นการเผยแพร่ข่าวที่สร้างความเกลียดชังเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนด้วยกัน เชื่อว่า มาตรการต่างๆจะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ปกติโดยเร็ว และให้คนไทยได้ฉลองสงกรานต์ได้ตามปกติ
"พี่น้องที่จะมาชุมนุมโปรดได้ทราบว่า ท่านกำลังจะเข้ามามีส่วนร่วมทำผิดกฎหมาย มีโทษตามกฎหมายและสามารถถูกจับกุมได้ ขณะเดียวกันพี่น้องประชาชนที่มีเพื่อนมีญาติที่คิดจะเข้ามาร่วมชุมนุมนั้น ก็ขอให้ช่วยเตือนบุคคลเหล่านี้ว่า อย่าได้มาชุมนุมเลย ส่วนพี่น้องที่อยู่ในที่ชุมนุม ถ้าท่านสื่อสารได้ เพราะว่ารัฐบาลประสงค์จะพากลับภูมิลำเนา รัฐบาลได้รับทราบบรรดาประเด็นต่างๆ ที่ได้เรียกร้องแล้ว และจะหาทางออกต่อไป แต่อยากให้เขากลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุข และ ทำให้พี่น้องทื่ไม่ได้ชุมนุมใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขได้" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ
นายกรัฐมตรี กล่าวว่า การดำเนินหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะกวดขันไม่ให้ประชาชนเช้าไปร่วมชุมนุมหรือเข้าพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเป็นการทำผิดกฎหมาย พร้อมทั้งโน้มน้าวให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมด้วยความสุจริตใจได้กลับออกมาจากการชุมนุม ไม่ให้มีการนำข้อเรียกร้องไปบิดเบือน ใช้เป็นข้ออ้างในการทำผิดกฎหมาย ก่อนหน้านี้ในทางปฏิบัติไม่สามารถแกนนำได้ เพระต้องจับกุมขณะที่ปราศรัย คงจะแหวกวงล้อมไม่ได้ แต่เมื่อมีหมายจับแล้ว หากแกนนำที่ถูกออกหมายจับ เดินทางออกไปที่ไหนจะถูกจับกุมได้ตลอดเวลา
"ผมขอลดความตึงเครียดจากการชุมนุม ผมอยากจะขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนว่า อย่าได้ปกป้องบุคคลที่กระทำการผิดกฎหมาย ร่วมมือกับเราในการจับกุมบุคคล คนที่ทำผิดกฎหมาย"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนเองได้ยกเลิกกำหนดการณ์ต่างๆ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา และยืนยันแนวทางว่าการดำเนินการจะไม่ให้เกิดบาดแผลในสังคมและความขัดแย้งในสังคมในอนาคตด้วย และจะไม่ใช้การสลายการชุมนุม แต่จะใช้วิธีการโน้มน้าวให้ประชาชนออกจากพื้นที่การชุมนุม
"วันนี้การคลี่คลายสถานการณ์ดีที่สุดคือการสร้างความรู้สึกร่วมกันว่าคนไทย ด้วยกันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาประหัตประหารกัน ครนไทยด้วยกันสามารถที่จะรับฟังและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน"
"ผมให้คำมั่นว่า แนวทางนี้จะเป็นแนวทาง ที่เราจะผลักดันให้ถึงที่สุด และจะทำได้ง่ายมากถ้าเราสามารถหยุดยั้ง กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการยั่วยุ ที่ต้องการให้เกิดความเกลียดชังและใช้ความรุนแรง ถ้าเราสามารถระงับสื่อประเภทนี้ได้ เราสามารถจับกุมบุคคลที่ทำผิดกฎหมายได้ ผมมั่นใจว่าคนไทย เราจะมีทางออกที่ดีต่อสถานการณ์ต่อไป"นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ การตัดสินใจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวานนี้ มีจุดประสงค์เพื่อคืนความเป็นปกติให้กับบ้านเมือง มีการรายงานเป็นระยะๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทราบ ซึ่งการทำงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ (ศอ.ฉ.) มีเป้าหมาย 4 ประการ คือ มีเป้าหมายให้ชาว กทม. ดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติ, หยุดยั้งการเสนอข่าวบิดเบือนให้เกิดความแตกแยก,ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฏหมาย และ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเหตุร้าย ซึ่งทั้ง4ส่วนถือเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น