นปช.ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เคลื่อนทัพใหญ่ 10 เส้นทางล้อมกรุง

ข่าวทั่วไป Friday April 9, 2010 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

  • ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ระดมคนจากต่างจังหวัดเข้ามาร่วมชุมนุมใหญ่ เพื่อหวังเผด็จศึกรัฐบาลวันนี้ โดยเวลาประมาณ 9.00 น. แกนนำนปช.จะประกาศแผนเคลื่อนทัพ 10 เส้นทางทั่วกรุง เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่าสถานที่เป้าหมายที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไป เช่น สถานีโทรทัศน์ NBT, สถานีโทรทัศน์ ASTV, บ้านพักนายกรัฐมนตรี ซ.สุขุมวิท 31 และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) เป็นต้น
  • หลังจากศาลได้อนุมัติหมายจับ 7 แกนนำนปช.ที่พาผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงไปบุกรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย 1.นายยศวริศ ชูกล่อม 2.นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ 3.นางศิริวรรณ นิมิตรศิลป์ 4.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง 5.นายพายัพ ปั้นเกตุ 6.พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ และ 7.นายวันชนะ เกิดดี ในความผิดข้อหาร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ กักขังหน่วยเหนี่ยว และข่มขู่ ต้องจับตาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้วิธีการอย่างไรในการเข้าไปจับตัวแกนนำดังกล่าว
  • ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีรัฐบาลสั่งตัดสัญญาณการแพร่ภาพของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลชาแนล (PTV)
  • กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มเสื้อเหลือง ล่าสุดวานนี้ได้ออกแถลงการณ์เร่งรัดให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ซึ่งพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่า กลุ่มเสื้อเหลืองพร้อมอยู่ในที่ตั้งแล้ว หากรัฐบาลไม่เร่งทำให้ประเทศกลับสู่ความสงบสุขเรียบร้อยโดยเร็ว และสถานการณ์ถึงขีดสุดเมื่อใดก็พร้อมที่จะออกมาทันที
  • ช่วงเย็นเวลา 16.30 น. ที่วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะบรรยายสรุปแก่คณะทูตานุทูต และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ถึงสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ รวมถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อดูแลและควบคุมการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
  • วันทำงานสุดท้ายปลายสัปดาห์ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเดินทางออกจากกทม.เพื่อกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เพื่อหยุดยาวฉลองช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้ภาครัฐได้กำหนดให้อุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในช่วง 7 วันอันตราย คือวันที่ 12-18 เม.ย. และตั้งเป้าจะลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลงจากปีก่อน 5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ