กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย รายงานมีพื้นที่ประสบภัยแล้งที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยแล้ง)แล้ว จำนวน 60 จังหวัด 415 อำเภอ 2,797 ตำบล 22,495 หมู่บ้าน แยกเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย ตาก น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ พิจิตร เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ชัยภูมิ มุกดาหาร หนองคาย ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา อำนาจเจริญ มหาสารคาม ศรีสะเกษ
ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท ลพบุรี นครปฐม สระบุรี
ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ปราจีนบุรี นครนายก ตราด ระยอง
ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครศรีธรรมราช ระนอง สตูล ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 7,242,449 คน 1,915,322 ครัวเรือน
ทั้งนี้ คาดว่าพื้นที่การเกษตรได้รับเสียหาย รวม 584,366 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 377,264 ไร่ นาข้าว 73,897 ไร่ และพืชอื่นๆ 133,205 ไร่
อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยแล้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจกจ่ายน้ำอุปโภคและบริโภคจำนวน 418,182,584 ลิตร พร้อมซ่อมสร้างทำนบและฝาย 5,483 แห่ง ขุดลอกแหล่งน้ำ 5,785 แห่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยแล้งในเบื้องต้นแล้ว