นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับเกษตรกรเนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติปี 53 โดยระบุว่า รัฐบาลจะพยายามปรับปรุงกฎเกณฑ์และเงื่อนไขในโครงการประกันรายได้เกษตรให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะผลักดันการจัดตั้งกองทุนเงินออมแห่งชาติ เพื่อเข้ามามีส่วนช่วยให้เกษตรกรได้มีเงินออมไว้ใช้ในอนาคต
"แน่นอนว่า เรื่องของหลักเกณฑ์ ราคา และปริมาณที่จะให้ในส่วนของโครงการประกันรายได้จะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต ซึ่งการดำเนินโครงการนี้จะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรและจะไม่ให้กระทบต่อกลไกตลาด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้รัฐบาลจะพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ข้าว รวมถึงแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าว เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่เกษตรกรในเรื่องรายได้ต่อไป รวมทั้งจะผลักดันการวางระบบประกันภัยพืชผลเกษตรจากความเสี่ยงทางภัยธรรมชาติด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า รัฐบาลมีงานสำคัญที่ต้องเผชิญกับการแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้ง โดยยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีและนาปรัง ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากพื้นที่ใดมีความจำเป็นต้องทำฝนเทียมก็สามารถดำเนินการได้
อย่างไรก็ดี จากการประเมินสถานการณ์แล้วยังมั่นใจว่าในช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ยังมีปริมาณน้ำเพียงพอกับการทำการเกษตร แต่รัฐบาลจะดำเนินแผนการช่วยเหลือเกษตรกรในอนาคต ซึ่งนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะเสนอแผนในการจัดหาอาชีพเพิ่มเติมให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งด้วย