กรมป้องกันฯ เผยพท.ประสบภัยแล้งลดลง 869 หมู่บ้านหลังมีฝนตกบริเวณกว้าง

ข่าวทั่วไป Friday July 30, 2010 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า พื้นที่ประสบภัยแล้งล่าสุดรวม 27 จังหวัด 161 อำเภอ 1,172 ตำบล 11,185 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,460,055 คน 923,871 ครัวเรือน ประกอบด้วย ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน ลำปาง ลำพูน พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี รวม 64 อำเภอ 413 ตำบล 3,408 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 760,297 คน 237,278 ครัวเรือน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครราชสีมา มหาสารคาม บุรีรัมย์ มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี รวม 87 อำเภอ 687 ตำบล 7,165 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,496,582 คน 626,767 ครัวเรือน

ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี ลพบุรี รวม 10 อำเภอ 72 ตำบล 612 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 203,176 คน 59,826 ครัวเรือน

ส่วนพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย รวม 1,183,834 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 916,784 ไร่ นาข้าว 89,313 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 177,737 ไร่ ในพื้นที่ 45 จังหวัด

หากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ภัยแล้ง ระหว่างวันที่ 6 - 12 กรกฎาคม 2553 ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยแล้ง รวม 27 จังหวัด 175 อำเภอ 1,264 ตำบล 12,054 หมู่บ้าน แต่เนื่องจากมีฝนตกทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้จำนวนหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งลดลง จำนวน 869 หมู่บ้าน โดยช่วงระหว่างวันที่ 12 — 19 เมษายน 2553 เป็นช่วงที่สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงมากที่สุด จำนวน 60 จังหวัด 463 อำเภอ 24,248 หมู่บ้าน

สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ในเบื้องต้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำ 500 คัน แจกจ่ายน้ำอุปโภค บริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยแล้ง จำนวน 208,855,150 ลิตร ซ่อมทำนบและฝายกั้นน้ำ 715 แห่ง ขุดลอกแหล่งน้ำ 686 แห่ง

จากการติดตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า แม้จะเริ่มมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ตกบริเวณท้ายเขื่อน ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ยังมีปริมาณน้อยมาก ประกอบกับต้องระบายน้ำออกเพื่อรักษาระบบนิเวศและการอุปโภคบริโภค ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง ขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ สภาพอากาศ รวมถึงปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่อย่างใกล้ชิด จะได้วางแผนการเพาะปลูกได้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ สภาพอากาศ และกรอบระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงจัดหาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในภาวะวิกฤติ หากอาศัยอยู่ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ให้เลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนา เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ