นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งใน 4 อำเภอ 14 ตำบล ได้แก่ อำเภอสามง่าม 4 ตำบล อำเภอโพธิ์ประทับช้าง 4 ตำบล อำเภอบึงนาราง 1 ตำบล และอำเภอโพทะเล 5 ตำบล
สิงห์บุรี น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่อำเภออินทร์บุรี 6 ตำบล 1 เทศบาล ราษฎรเดือดร้อน 434 คน 124 ครัวเรือน
อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอป่าโมก 2 ตำบล
พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ 54 ตำบล 297 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา 4 ตำบล อำเภอบางไทร 23 ตำบล อำเภอมหาราช 12 ตำบล อำเภอผักไห่ 7 ตำบล และอำเภอบางบาล 8 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 13,977 คน 4,494 ครัวเรือน
ประจวบคีรีขันธ์ น้ำป่าไหลกหลากเข้าท่วมเทศบาลเมืองหัวหิน ในเขตชุมชนหนองแก และโครงการบ้านจัดสรรใกล้เคียงซึ่งตั้งอยู่ในซอยหัวหิน 102 ราษฎรเดือดร้อน 100 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
และราชบุรี น้ำท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ 17 ตำบล 59 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองราชบุรี 6 ตำบล อำเภอสวนผึ้ง 2 ตำบล อำเภอปากท่อ 6 ตำบล อำเภอจอมบึง 4 ตำบล
นอกจากนี้ ได้เกิดพายุและลมกระโชกแรงในพื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 200 ครัวเรือน 800 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากไฟฟ้าดูด ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
ก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำใน 13 จังหวัด 28 อำเภอ 130 ตำบล 504 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 19,490 ครัวเรือน 48,575 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 28,528 ไร่ ได้แก่ เชียงราย น่าน สุโขทัย ลำพูน พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน สุโขทัย ลำพูน นครสวรรค์ ชัยนาท นครราชสีมา
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10ลำปาง เขต 15 เชียงราย และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งรถผลิตน้ำ 1 คัน รถบรรทุกน้ำ 3 คัน รถแบ๊กโฮ 1 คัน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ