ครม.พิจารณามาตรการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบน้ำท่วมหนักหลายจังหวัด

ข่าวการเมือง Tuesday October 19, 2010 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเสนอมาตรการแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ล่าสุด เช้านี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 27 จังหวัด 78 อำเภอ ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา นครราชสีมา เพชรบุรี ระยอง ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี ลพบุรี ชัยภูมิ ศรีสะเกษ นครนายก เพชรบูรณ์ สระบุรี ขณะที่มีรายงานข่าวว่าพบประชาชนเสียชีวิตแล้ว 6 ราย

ทั้งนี้ ปภ.เตรียมเสนอขอขยายวงเงินฉุกเฉินพิเศษ หลังนายกรัฐมนตรีลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมที่ จ.นครราชสีมา และพบว่าสถานการณ์รุนแรงมาก โดยจะขอขยายวงเงินจากกรอบที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ที่ 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท และหากจังหวัดใดที่เห็นว่าสถานการณ์รุนแรงเกินกว่างบฯที่กำหนดไว้ สามารถรายงานเรื่องมายังครม.เพื่อขออนุมัติได้ทันที

ส่วนวาระอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การพิจารณาร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน, กระทรวงพาณิชย์ เสนอขอความเห็นชอบแนวทางการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนไทย-พม่าอ.แม่สอด จ.ตาก รวมทั้งการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดให้เป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ

รวมทั้งจะเสนอของบประมาณพิเศษ 500 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี โดยในจำนวนนี้ 200-300 ล้านบาทจะใช้จัดงานแสดงสินค้า เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีนำสินค้าที่ไม่สามารถส่งออกได้ มาจำหน่ายภายในประเทศ ส่วนที่เหลือ 100-200 ล้านบาท จะใช้ในโครงการ 12 เดือน 12 โครงการ หรือโครงการขายสินค้าราคาประหยัดช่วยเหลือผู้บริโภค

กระทรวงการคลัง เสนอร่างประกาศกระทวงการคลังยกเว้นภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซลสำหรับเรือที่เดินทางไป-กลับในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(เจดีเอ)เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่รัฐบาลไทยและมาเลเซียได้จัดตั้งองค์กรร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและมาเลเซีย เพื่อสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติปิโตรเลียมร่วมกัน โดยมีหลักการในการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) เตรียมเสนอแผนบรอดแบรนด์แห่งชาติ โดย บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้ตั้งคณะทำงานไปศึกษาเปรียบเทียบการให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นแผนสำรองหากไม่สามารถซื้อกิจการ ฮัทช์ ผู้ให้บริการซีดีเอ็มเอภาคกลาง 25 จังหวัดได้

กระทรวงศึกษาธิการเสนอมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณก่อนกำหนด) , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอรายงานผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่...) (การยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลสำหรับเรือที่เดินทางไปกลับในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย)

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) เสนอความเห็นให้มีการปรับปรุงการบริหารจัดการและการบริการระบบขนส่งมวลชนเพื่อให้การบริหารจัดการและบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ของ ขสมก.มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ไม่ก่อหนี้สินใหม่

นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 7 โดยขออนุมัติให้อำนาจ รมว.กลาโหม ร่วมประชุม และ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุว่า กอ.รมน.ภาค 4 จะเสนอขอขยายการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน จาก 20 ต.ค.53 - 19 ม.ค. 54


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ