บัฟเฟตต์-จอร์จ เอช. ดับเบิ้ลยู บุช-นายกเยอรมนีรับเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดฝ่ายพลเรือนของสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 18, 2010 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนมหาเศรษฐีชื่อดัง อดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐอเมริกา และนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนี ได้รับมอบเหรียญรางวัลเชิดชูเกียรติ Presidential Medal of Freedom ประจำปีนี้

ในวันนี้ ทำเนียบขาวแห่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศรายชื่อผู้ได้รับมอบเหรียญรางวัล Presidential Medal of Freedom ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดฝ่ายพลเรือนของสหรัฐ ที่มอบให้แก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ต่อสหรัฐ หรือมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพของโลก

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ล้วนมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน และมีความสามารถในด้านต่างๆ รวมถึงมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งพวกเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เรา และมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของสหรัฐให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงทำให้ประเทศและโลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น"

ในโอกาสนี้ บัฟเฟตต์ ได้ส่งจดหมายขอบคุณไปยังรัฐบาลกลางสหรัฐพร้อมทั้งกล่าวว่า การรับมือกับวิกฤตการเงินของสหรัฐช่วยประคับประคองให้หลายบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และช่วยให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนยังมีงานทำ

บัฟเฟตต์ นักลงทุนมหาเศรษฐีวัย 80 ปี เป็นเจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ มีบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไปจนถึงภาคธุรกิจพลังงาน โดยนิตยสารฟอร์บส์ประมาณการณ์สินทรัพย์ของบัฟเฟตต์ไว้ที่ 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บัฟเฟตต์ยังได้บริจาคเงินส่วนใหญ่ให้กับมูลนิธิบิลล์แอนด์เมลินดาเกตส์ รวมถึงองค์กรการกุศลอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ด้านจอร์ช เอช. ดับเบิ้ลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐวัย 86 ปี ได้รับการยกย่องในฐานะเป็นผู้ที่ทำงานให้กับสหรัฐมายาวนาน โดยก่อนที่จะเขาจะก้าวเข้ามาเป็นผู้นำทำเนียบขาวในปี 2531 นั้น เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีในยุคของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน

สำหรับนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนีวัย 56 ปี เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในเส้นทางการเมืองหลังจากที่เยอรมนีตะวันออกกับตะวันตกได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งในวันนี้เธอได้เขียนจดหมายเปิดผนึกไปยังเยอรมนีเพื่อขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตการเงิน และกล่าวด้วยว่าจะเดินหน้าทำงานเพื่อปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐและคุ้มครองสถานะการเงินของชาวเยอรมนีต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ