นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย หนึ่งใน 7 ส.ส.ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวยืนยันว่ากลุ่ม 7 ส.ส.ไม่ได้ทำผิดข้อบังคับรัฐสภาหรือขัดรัฐธรรมนูญ แต่เหตุการณ์การที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยขัดขวางและอ้างว่ากลุ่มส.ส.ทั้ง 7 ทำผิดในการเข้าร่วมเป็นธรรมาธิการเนื่องจากขัดมติพรรคนั้น ความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายทำผิดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาในการตั้งคณะกรรมาธิการ ข้อที่ 61 และ 62 ระบุว่า ระบุว่าสมาชิกรัฐสภาแต่ละคนมีสิทธิเสนอชื่อได้ไม่เกินจำนวนกรรมาธิการ ไม่ใช่ให้พรรคเป็นผู้เสนอ
ดังนั้น การที่นายปิยะรัช หมื่นแสน ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อพวกตนเป็นกรรมาธิการจึงทำถูกต้อง เพราะ ส.ส.เป็นฝ่ายเสนอเอง อีกทั้ง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในมาตรา 120 เขียนไว้ว่า "ส.ส. และ ส.ว. เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย ปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์" ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ ส.ส.มีอิสระจากพรรคในเรื่องที่ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม
"การเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการก็ถือเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงทำผิดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขอให้ระวัง อาจถูกยุบพรรคได้"นายนิคม กล่าว
นายนิคม กล่าวว่า แม้จะไม่ได้ทำผิดข้อบังคับหรือรัฐธรรมนูญในการเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ แต่เพื่อความรอบคอบ ในการประชุมรัฐสภาช่วงท้ายวานนี้ก่อนปิดประชุมที่ประชุมได้ยกเว้นการใช้ข้อบังคับโดยให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการชุดใหม่จำนวน 45 คนเพื่อทำหน้าที่พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ โดยได้ยกเลิกคณะกรรมาธิการ 24 คนที่ตั้งไปก่อนหน้าและถูกมองว่ามีปัญหา ทั้งนี้เพื่อความรอบคอบ