นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่กรุงเทพฯ 7 เขตออกไปอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 25 มี.ค.54 ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ต้องการจะดูแลความสงบเรียบร้อยให้แก่คนส่วนใหญ่ และช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำงานได้
ทั้งนี้ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพิ่มเติมนั้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้ชี้แจงถึงแผนงานที่ชัดเจน และเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมยืนยันว่าการบังคับใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ จะเน้นการป้องกันเหตุเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็หวังให้กลุ่มผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือด้วย
"จะไปบอกว่าเป็นยาแรงคงจะไม่ได้ เพราะหลักการของกฎหมายเป็นลักษณะของการป้องกัน เป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ตลอดที่ผ่านมาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง รวมถึงยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีความคิดที่จะใช้นโยบายในรูปแบบการอุ้มฆ่า แม้ขณะนี้จะมีเหตุการณ์รายวันเกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าต้องปรับการดูแล โดยเฉพาะการตั้งด่านดูแลในเขตเมือง พร้อมกับขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลยังใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร และช่วงชิงมวลชนเข้าไปพัฒนาพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาเคยพูดตลอดว่าเหตุการณ์คงยังไม่หมดไป และอาจจะมีบางช่วงที่มีการตอบโต้ด้วยวิธีการรุนแรง และยอมรับว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงนี้อาจมาจากการพัฒนาอุปกรณ์ของผู้ก่อความไม่สงบที่มีความทันสมัยมากขึ้น
ส่วนกลุ่มที่ก่อความไม่สงบนั้น คงไม่สามารถไปโยงกลับกลุ่มที่ทำผิดกฎหมายอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลักลอบขนยาเสพติด หรือค้าน้ำมันเถื่อน