ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งกรณีที่แกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินในคดีที่ได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในวันพรุ่งนี้(4 มี.ค.)
โดยวันนี้ศาลได้นัดไต่สวนฉุกเฉินฝ่ายจำเลยในคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และสมาชิกเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ, พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และนายทศพล แก้วทิมา กรรมการเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ผู้ถูกออกหมายเรียกลำดับที่ 10 ข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2550 ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เป็นจำเลยที่ 1-2 เรื่องละเมิด ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ประกาศทุกฉบับที่ออกตาม พ.ร.บ.มั่นคงฯ เป็นโมฆะ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร.ได้ส่งผู้แทนนำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการออกประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.มั่นคง มามอบให้ต่อศาล ซึ่งศาลได้รับไว้พิจารณาและนัดให้ฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น.
ส่วนการไต่สวนฉุกเฉินในคดีที่นายประพันธ์ คูณมี กรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. เป็นจำเลย เรื่องละเมิด กรณีการออกประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศและข้อกำหนดทุกฉบับ รวมทั้งขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับการดำเนินการใดๆ ตาม พ.ร.บ.มั่นคง ซึ่งได้ต่ออายุออกไปจนถึงวันที่ 23 มี.ค.นี้ โดยศาลนัดฟังในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน เวลา 13.30 น.